Member Loyalty Program และการไลฟ์สตรีม หัวใจหลัก สร้างยอดขายสู่การเติบโต
ช่วงแรกของมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ของอาลีบาบา ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมกับผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ โดยร้านค้ากว่า 102 แบรนด์ ได้ลงทะเบียนรายได้รวมจากยอด GMV ของแต่แบรนด์ เป็นจำนวนเงินกว่า 100 ล้านหยวน ภายในหนึ่งชั่วโมงแรก (31 ตุลาคม)
ขณะนี้แบรนด์และร้านค้าที่ร่วมรายการกำลังรอคอยช่วงเวลาช้อปปิ้งครั้งที่สอง ซึ่งจะเริ่มเวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศจีน ในวันที่ 10 พฤศจิกายน หรือในอีกไม่กี่ชั่วโมงจากนี้
Loyalty membership program ของอาลีบาบาได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถสร้างแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตของแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างแท้จริงใน 11.11 นี้ ซึ่งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ร้านค้ากว่า 82 แบรนด์รวมถึงผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เช่น Nike, P&G และ The North Face และผู้ค้าปลีกในจีน เช่น LINSY Home Furniture และ Babycare ได้ลงทะเบียนรายได้จากยอด GMV ที่มาจากสมาชิก Loyalty program เป็นจำนวนเงินมากกว่า 100 ล้านหยวน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ค้ากว่า 4,000 แบรนด์ยังระบุด้วยว่า ยอด GMV จากสมาชิก Loyalty program มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า เมื่อเทียบเป็นรายปี
เนื่องจากตลาดผู้บริโภคมีการแบ่งสัดส่วนชัดเจนขึ้น โปรแกรมสมาชิกที่สามารถรักษาลูกค้าประจำได้มาก และทำให้ลูกค้าภักดีต่อแบรนด์ จึงมีความสำคัญต่อผู้ค้าอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น Nike ซึ่งเปิดตัวโปรแกรมสมาชิกขั้นสูงบน ทีมอลล์ โดยนำเสนอประสบการณ์อวาตาร์เสมือนจริงแก่ลูกค้า พร้อมด้วยการโต้ตอบกับพวกเขาผ่านตัวละคร 3 มิติ รวมถึงการมีเกมแบบโต้ตอบได้ และมอบคะแนนสะสมให้แก่ลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน ประสบการณ์เหล่านี้ จะช่วยสร้างการจดจำแบรนด์และกระตุ้นการขายในหมู่แฟน ๆ ที่ภักดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอย่าง Babycare มองว่า ระบบสมาชิกถือเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตเชิงกลยุทธ์ โดยทางแบรนด์ได้จัดโปรแกรมสมาชิกบนทีมอลล์มาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่ง Babycare กล่าวว่า “จนถึงตอนนี้ เรามีสมาชิกมากกว่า 10 ล้านคน เราเชื่อว่า Loyalty membership program ของเราช่วยให้เราเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น”
การไลฟ์สตรีม ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ 11.11 ที่แบรนด์และผู้ค้าบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบานำมาใช้ งานนี้ เหล่า KOL และคนดังชั้นนำจำนวนมากได้เข้าร่วม เถาเป่าไลฟ์ (Taobao Live) เพื่อจัดเซสชั่นไลฟ์สตรีมตลอดช่วง 11.11 นี้
โดยภายในหนึ่งชั่วโมงแรกหลังจากเริ่มระยะเวลาการขายในวันที่ 31 ตุลาคม จำนวนการเข้าชมและชั่วโมงการรับชมทั้งหมดที่บันทึกโดย เถาเป่าไลฟ์ เพิ่มขึ้น 600% และ 60% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
แบรนด์ความงามและเครื่องสำอางระดับพรีเมี่ยม ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบาที่ไสฟ์สตรีมผ่านหน้าร้านมอลล์ของตนเอง และได้รับผลตอบรับอันน่าประทับใจ โดยภายใน 4 ชั่วโมงที่มหกรรมช้อปปิ้งช่วงแรกได้เริ่มต้นขึ้น ช่องการไลฟ์สตรีมอย่างเป็นทางการของ Estée Lauder, La Mer, Lancôme และ PROYA ต่างสร้างยอด GMV ได้มากกว่า 100 ล้านหยวน และที่ยิ่งไปกว่านั้น ยอด GMV ภายใน 1 ชั่วโมงแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามจากแบรนด์หรูต่าง ๆ เช่น Valentino, Burberry และ KENZO ได้พุ่งสูงจนแซงหน้ายอด GMV ของทั้งช่วงการช้อปปิ้งในปีที่แล้ว (1-3 พฤศจิกายน 2564)
“ไลฟ์สตรีมมิ่ง กลายเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเล่าเรื่องเพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ที่ผู้บริโภคเริ่มคุ้นเคยและต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางการขายที่ให้ข้อมูลสินค้าออนไลน์ได้อย่างเต็มที่” ชุย เฉีย ประธานศูนย์พัฒนาและปฏิบัติการอุตสาหกรรมของเถาเป่าและทีมอลล์ แห่งอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์