กลยุทธ์ C2M ของอาลีบาบาช่วยผู้ผลิตเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

เมื่อโรงงานของร้านค้าออฟไลน์ได้รับผลกระทบด้านการผลิตและช่องทางการขายในช่วงวิกฤติโควิด-19 การเปลี่ยนระบบปฏิบัติการไปเป็นรูปแบบดิจิทัลโดยการอาศัยเครื่องมือและแพลตฟอร์มของอาลีบาบา กรุ๊ปกลายเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด

ปัจจุบัน หลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤต กลยุทธ์ออนไลน์มีความสำคัญมากขึ้นสำหรับโรงงาน เพื่อที่จะรอดพ้นวิกฤตในศตวรรษที่ 21 นี้

ย้อนไปเมื่อปี 2569 อาลีบาบาริเริ่มคอนเซ็ปต์การผลิตใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบ 5 เทรนด์ในอนาคต ที่กลายไปเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจในอนาคต คอนเซ็ปต์ดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับ “นิวรีเทล” ที่มีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและใช้ช่องทางออนไลน์และออฟไลน์สร้างศักยภาพและประสบการณ์ใหม่ๆ

ในเดือนเมษายน แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบากล่าวว่าบริษัทจะสนับสนุน 10 คลัสเตอร์การผลิตและโรงงานทั้งสิ้น 1,000 แห่ง ให้มียอดขายเกินกว่า 100 ล้านหยวน (ประมาณ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ)

เป้าหมาย คือการประสบความสำเร็จผ่านกลยุทธ์ C2M (consumer-to-manufacturer) ซึ่งใช้ข้อมูลทางดิจิทัลได้แก่ ข้อมูลเชิงลึก ระบบ AI ที่สามารถช่วยโรงงานดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างเต็มศักยภาพ

กลยุทธ์การผลิตของอาลีบาบารวมใช้ประโยชน์จากทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ล้ำสมัยให้แก่ผู้บริโภค                                                                              

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส

โมเดล C2M พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญในเวลาที่โควิด-19 ระบาด ในขณะที่โรงงานทั่วประเทศจีนถูกบังคับให้หยุดการผลิตชั่วคราว แม้ว่าธุรกิจกลับมาดำเนินการตามปกติ ผู้ผลิตต่างต้องต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนสภาพก่อนเกิดวิกฤตให้มากที่สุด ในขณะที่บายเออร์ B2B ก็ต้องปรับตัวอย่างมากกับสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะวิกฤตด้านสุขภาพ

หนึ่งในโรงงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ Odis ผู้ผลิตสินค้าสำหรับดูแลรถยนต์ บริษัทก่อตั้งมา 14 ปี ผ่านพ้นวิกฤต SARS มาได้ แต่เมื่อเทียบกับโควิด-19 นั้นสาหัสกว่ามาก นายฉื้อ เหวยห่าว ผู้จัดการทั่วไปเผยว่า หลังตรุษจีน ยอดขายลงลด 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

เมื่อยอดสั่งสินค้าดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง Odis ต้องหาทางออกที่จะสร้างรายได้เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ซึ่งประจวบเหมาะกับที่บริษัทได้รับการติดต่อจากฝ่าย C2M ของอาลีบาบา ที่รายงานว่าคำค้น “อุปกรณ์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดรถยนต์” เริ่มมีมากขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม เมื่อผู้บริโภคตระหนักถึงความจำเป็นในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค หาน เหล่ย ผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของ C2M วิธีเดียวที่จะตอบสนองความต้องการทางตลาดที่สูงขึ้น คือการทำงานใกล้ชิดกับผู้ผลิตที่ได้รับการรับรอง

แนวปฏิบัติภายใน

ทีม C2M สามารถนำเสนอการวิเคราะห์รีลไทม์ สนับสนุนข้อมูลโดยระบบ AI และเทคโนโลยีคลาวด์ของอาลีบาบา ช่วยให้ Odis ปรับตัวกับเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนไปและหาวิธีเติบโตรูปแบบใหม่

“ทีม C2M ของอาลีบาบาทำงานกับเราอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เรามีโร้ดแมปที่ชัดเจนว่าผู้บริโภคต้องการอะไรและปริมาณที่ผู้บริโภคต้องการ” นายฉื้ออธิบายกรอบคิดของ C2M ที่เติมเต็มความรู้ของผู้ผลิตในประเด็นที่เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซและผู้ใช้

Odis เริ่มผลิตสินค้าทำความสะอาดรถยนต์ที่ผู้บริโภคต้องการ ได้แก่สเปรย์แอลกอฮอล์ 75% อาลีบาบาช่วยให้ Odis ปรับไลน์สินค้าภายใน 3 วัน ในการผลิตสินค้าเหล่านี้ ถ้า Odis เริ่มกระบวนการนี้ด้วยตัวเอง โรงงานคาดว่าคงใช้เวลาถึง 3 เดือน จากข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค โรงงานจึงเริ่มผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ในขวดพลาสติก แทนที่จะบรรจุในกล่องอลูมิเนียม

“พวกเขาควรจะต้องรองรับความต้องการของตลาดและสร้างคุณค่าสำหรับผู้บริโภค” นายหานกล่าว “เราพยายามทำงานร่วมกับโรงงานเพื่อทำให้ฟีเจอร์ของสินค้าลงตัวและมั่นใจได้ว่าสินค้าล็อตใหม่จะกลายเป็นสินค้ายอดนิยมคุณภาพชั้นเยี่ยมนิยมในมาร์เก็ตเพลส”

ทีม C2M ของอาลีบาบาใช้การวิเคราะห์ข้อมูลรีลไทม์เพื่อช่วยโรงงานตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและมองหาโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ

เพื่อให้ผู้บริโภคมีความใกล้ชิดกับสินค้าของ Odis และช่วยโรงงานบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ทีมของนายหานใช้ดิจิทัล อีโคซิสเท็มของอาลีบาบาและจัดแคมเปญผ่านทีมอลล์ เพื่อให้ผู้บริโภคสั่งสินค้าสเปรย์กำจัดเชื้อโรคล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มผลิต มียอดสั่งซื้อสเปรย์แอลกอฮอล์ 200,000 ขวดภายใน 24 ชั่วโมง อาลีบาบาจึงเพิ่มหมวดหมู่สินค้าทำความสะอาดรถยนต์ไปบนมาร์เก็ตเพลสออนไลน์

ต้องให้เครดิตความพยายามของทีม C2M ยอดขายออนไลน์คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้บริษัท Odis ในช่วงที่โรคระบาด เมื่อตอนที่ไวรัสโคโรน่าระบาด ประเทศอื่นเริ่มสนใจสินค้าของ Odis ซึ่งประสบความสำเร็จไปแล้วในหมู่ผู้บริโภคจีนด้วยยอดขายกว่า 10 ล้านยูนิต ตั้งแต่เดือนมีนาคม โรงงานได้ขายสเปรย์แอลกอฮอล์ไปกว่า 30 ล้านขวดทั่วโลก นายฉื้อกล่าวว่า “การคิดค้นสินค้าที่ใช่ในเวลาที่ใช่”  กลายเป็นหัวใจของความสำเร็จ เพื่อให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขัน โรงงานตั้งใจจะยึดกลยุทธ์ C2M ในการปฏิบัติงานต่อไป

กลยุทธ์ C2M ในระยะยาว

นายหานกล่าวว่า การเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเป็น C2M จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตในระยะยาว นอกจากทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ในช่วงเวลาวิกฤต โดยการย้ายช่องทางหลักไปเป็นออนไลน์และขายสินค้าโดยตรงกับผู้บริโภค โรงงานสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายการผลิตสินค้าได้ถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ นายหานยังบอกว่าโมเดลธุรกิจดังกล่าวได้ผลดีมาก โดยเฉพาะกับมณฑลรอบนอกของประเทศจีน ซึ่งเป็นที่ที่จะมีการบริโภคไปกระจุกตัวอยู่ในอีก 10 ปีข้างหน้า จากวิจัยของ Morgan Stanley ผู้บริโภคเหล่านี้ต้องการราคาที่ถูก แต่ก็พร้อมที่จะจ่ายเพิ่ม หากสินค้าที่ได้มีดีไซน์ที่ทันสมัยและคุณภาพที่ดีกว่าจาก ซึ่งโรงงานผลิตตามความต้องการของผู้บริโภค

การทำให้โรงงานหันมาใช้กลยุทธ์   C2M ไม่ใช่เรื่องง่ายไปทั้งหมด นายฉื้อเล่าจากประสบการณ์ตรงว่า ผู้ผลิตจะต้องมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนถ้าต้องการจะประสบความสำเร็จ “ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าการผลิตในรูปแบบดั้งเดิม อาทิในเรื่องของการดีไซน์และออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง” นายฉื้ออธิบาย

เมื่อเข้าใจอุปสรรคที่เกิดขึ้น อาลีบาบาเปิดตัวโปรแกรม factory-incubation ซึ่งประหยัดต้นทุนทางออนไลน์ การบริหารจัดการ account และเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยผู้ผลิตเปลี่ยนแปลงผ่าน C2M เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฯ เปิดตัวเถาเป่า ดีล แอปพลิเคชันที่นำเสนอให้นักช้อปซื้อของจากโรงงานโดยตรงในราคาที่ต่ำกว่าตลาด โรงงานกว่า 500,000 โรงงานและซัพพลายเออร์ 1.2 ล้านรายในประเทศจีนได้ลงชื่อเป็นสมาชิกบนแพลตฟอร์ม

“หากโรงงานพร้อมที่จะลงทุนเพื่อเปลี่ยนแปลงบนช่องทาง C2M ทีมของเราจะช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งในด้านของไอเดียและจัดหาบายเออร์ที่มีความสามารถ” นายหานกล่าว “โอกาสจะมาถึงผู้ที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ” นายหานกล่าวปิดท้าย

digitization การผลิตใหม่ C2M นิวรีเทล โควิด-19