ทีมอลล์ จาก อาลีบาบา นำร่องการติดป้ายคาร์บอน ขับเคลื่อนการบริโภคแบบยั่งยืน

เครื่องใช้ไฟฟ้าบนทีมอลล์ที่ติดป้ายว่าเป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทีมอลล์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ B2C ของ อาลีบาบา กรุ๊ป เปิดตัวป้ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้เห็นผลกระทบจากการซื้อของของตัวเองที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและตัดสินใจซื้อกับตัวเลือกที่ยั่งยืน

แพลตฟอร์มทีมอลล์เริ่มติดป้ายดังกล่าวบนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนนี้ และจะทยอยเพิ่มในสินค้าประเภทอื่น ๆ ในหน้าแสดงสินค้า ซึ่งป้ายจะแสดงตัวเลขการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผู้ซื้อสามารถช่วยลดลงได้หากใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ทั่วไป

“เราต้องการให้ผู้บริโภครู้ถึงผลกระทบจากการตัดสินใจซื้อของพวกเขา และผลักดันให้พวกเขาเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ซุน หยาน หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ESG สำหรับผู้บริโภค จากทีมการค้าดิจิทัลจีนของอาลีบาบากล่าว

ผู้ค้าสามารถส่งสินค้าของตนให้ทีมอลล์ตรวจสอบได้ ทุกวันนี้ ทีมอลล์ ได้จัดประเภทเครื่องใช้ในบ้านที่ประหยัดพลังงานได้มากกว่า 300,000 เครื่องจากผู้ค้ากว่า 3,000 ราย

การให้ความสำคัญต่อสินค้าที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนทำให้อาลีบาบาเข้าใกล้ เป้าหมายในการลดคาร์บอน จำนวน 1.5 กิกะตันภายในปี 2578 ไปอีกขั้น

“เรามีความตั้งใจที่จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและสร้างสรรค์ในสังคม” แดเนียล จาง ประธานและซีอีโอกล่าวในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่ประกาศเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของบริษัท

การกำหนดมาตรฐาน

อาลีบาบา ได้ผลักดันให้ผู้บริโภคใช้ขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเลือกซื้อสินค้ามือสอง นอกจากนี้ อาลีบาบา ยังเป็นตลาดสำหรับสินค้าที่ยั่งยืนในทุกหมวดหมู่ของการช้อปปิ้ง

จาก ผลสำรวจ ของบริษัทที่ปรึกษา PWC เกี่ยวกับผู้บริโภคในจีนเมื่อปี 2564 พบว่า 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามพยายามซื้อสินค้าจากบริษัทที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม 41% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การขาดตัวเลือกสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็นับว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดต่อการช้อปปิ้งแบบยั่งยืน

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ต่าง ๆ เองก็กำลังหันมาติดป้ายคาร์บอนฟุตพริ้นท์เช่นกัน เพื่อให้ผู้บริโภคทราบเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสินค้า แต่ก็ยังคงมีความท้าทายอยู่

เพราะยังขาดมาตรฐานที่เป็นยอมรับในวงการในการวัดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของสินค้า จึงทำให้ยังไม่ได้ใช้กันแพร่หลายนัก อาลีบาบาเองก็กำลังลดช่องว่างดังกล่าวด้วยแนวทางที่ประยุกต์ใช้ทั่วทั้งวงการ

เมื่อเดือนที่แล้ว อาลีบาบาเป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่ร่วมมือกับสถาบันมาตรฐานแห่งชาติจีน (China National Institute of Standardization) ในการร่างแนวทางเพื่อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนวทางดังกล่าวจะกำหนดขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมในการวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของสินค้าต่าง ๆ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นไป ด้วยเหตุนี้ อาลีบาบาจึงกลายเป็นบริษัทจีนแห่งแรกที่ปรับใช้แนวทางดังกล่าวบนแพลตฟอร์มของตัวเอง

ยกตัวอย่างเช่น เครื่องปรับอากาศจะปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า 52.62 กิโลกรัมต่อปีเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องปรับอากาศปกติ ซึ่งสอดคล้องกับการใช้พลังงานระดับ 1 ที่รัฐอนุมัติ คล้ายกับฉลากประหยัดพลังงาน (Energy Star) ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ

“เราหวังว่าแบรนด์อื่น ๆ จะลงทุนพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลังจากที่ได้เห็นผู้บริโภคกระตือรือร้นและปรับตัวเพื่อความยั่งยืนเพิ่มขึ้น” ซุนกล่าว

ESG Tmall การลดคาร์บอน ความยั่งยืน ทีมอลล์