ทีมอลล์ฉลองครบรอบ 3 ปี “Tmall Luxury Pavilion” ด้วยฟีเจอร์สุดล้ำเอาใจผู้บริโภค
เมื่อครั้งที่อาลีบาบาได้เปิดตัวแพลตฟอร์มสินค้าแบรนด์หรูเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ณ ตอนนั้นแบรนด์ต่างๆ ยังชั่งใจกับการขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ กาลเวลาได้พิสูจน์การเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในวันนี้
แบรนด์ระดับ top-tier ไม่มั่นใจกับความคุ้มค่าที่จะขยับไปสู่ช่องทางออนไลน์และการช้อปปิ้งดิจิทัล ด้วยความกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์และความเอกซคลูซีฟของแบรนด์ ปัจจุบัน อุตสาหกรรมดังกล่าวหันไปทางดิจิทัลมากขึ้น โดยมีแบรนด์ชั้นนำเข้าร่วม ‘Tmall Luxury Pavillion’ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีแบรนด์ชั้นนำและดีไซเนอร์แบรนด์เข้าร่วมกว่า 200 แบรนด์ เพิ่มขึ้นจาก 150 แบรนด์ในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มถึง 220 ภายในปีนี้ Balmain, Salvatore Ferragamo, Golden Goose, De Beers, Jaeger-LeCoultre and IWC Schaffhausen คือแบรนด์ที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มเมื่อเร็วๆ นี้
สิ่งที่ทำให้ Pavilion ของทีมอลล์เป็นที่นิยมคือ ความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยฟีเจอร์ที่แตกต่างเพื่อให้แบรนด์ได้ออกแบบตามความต้องการ พร้อมเปลี่ยนจากร้านออฟไลน์มาเป็นออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคจีนในรูปแบบอีคอมเมิร์ซที่ให้ตัดสินใจได้ง่าย ลูน่า หวัง ผู้อำนวยการฝ่าย Tmall Luxury กล่าว
“ตั้งแต่การเปิดตัวของ Tmall Luxury Pavillion” เมื่อ 3 ปีที่ก่อน เราพยายามช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนผ่านเครื่องมือ โซลูชันดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดให้กับสินค้า การสร้างแบรนด์ไปจนถึงการวิเคราะห์ตลาดและการบริการลูกค้าหลังการขาย” ลูน่ากล่าว “เราต้องการทำงานร่วมกับแบรนด์ที่มีลักษณะเฉพาะและเน้นประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับนักช้อป ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนหรือเมือไหร่”
3 ปีผ่านไป เรายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี Tmall Luxury Pavilion ได้จัดโปรแกรมต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนในการจัดมหกรรมช้อปปิ้งเพื่อผู้ช้อปชาวจีนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
Dante D’Angelo ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดดิจิทัลของ Valentino กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในครั้งนี้ เราก่อตั้งในช่วงเริ่มต้นกับที่ทีมทีมอลล์ประจำอิตาลีและจีนเพื่อบรรลุเป้าหมาย “เข้าถึงผู้บริโภคจีนโดยมอบมรดกของแบรนด์ ประสบการณ์ดีๆ สินค้าและคุณค่าไปยังผู้บริโภคจีน” “เพราะทีมอลล์เราจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในประเทศจีน โดยการรับฟังและเข้าใจตลาดโดยการพึ่งเทคโนโลยีในฐานะเครื่องมือแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมลักชัวรี” เขากล่าวเสริม
เชื่อมต่อกับความลักชัวรีของคนรุ่นใหม่
ไลฟ์สตรีมมิ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมของอาลีบาบาที่แบรนด์นำมาใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี เมื่อเดือนก่อน Luxury Pavilion เปิดตัวฟีเจอร์ interactive เพื่อช่วยให้แบรนด์มีความน่าดึงดูดมากขึ้นในสายตาผู้บริโภคเจน Z
ในเดือนเดียวกัน Piaget แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับสัญชาติสวิส เปิดใช้เทคโนโลยีทีมอลล์แฟล็กชิพ 2.0ของอาลีบาบาเพื่อตกแต่งหน้าร้านและโปรโมตสร้อยคอ Possession รุ่นลิมิเต็ดสำหรับเทศกาลวันวาเลนไทน์ของจีน นักช้อปใน Pavilion สามารถใช้ฟีเจอร์เลื่อนดูสินค้าในรูปแบบเสมือนจริงผ่านสมาร์ทโฟน
ขณะเดียวกัน แบรนด์อย่าง ‘Ermenegildo Zegna’ ได้เพิ่มฟีเจอร์เกมมิฟิเคชั่นให้กับผู้บริโภค นั่นคือเถาเป่าไลฟ์ (Taobao Life) โลกเสมือนจริงในรูปแบบ immersive ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการค้าออนไลน์ภายใต้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบาเพื่อโปรโมทคอลเลกชั่นที่ทำร่วมกันกับแบรนด์สัญชาติอเมริกันจากแอลเอ ‘Fear of God’ ไปสู่ตลาดจีนเมื่อเดือนที่ผ่านมา แบรนด์ Ermenegildo Zegna สร้างคอลเลกชันสินค้า 3D ที่ผู้บริโภคสามารถใช้แต่งตัว avatar ของตนในเถาเป่าไลฟ์
นอกจากนี้ ทีมอลล์ยังจัดงานอีเว้นท์ออนไลน์เพื่อนำเสนอประสบการณ์น่าที่น่าตื่นตาและน่าจดจำแก่นักช้อป เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทีมอลล์ได้ร่วมกับเซี่ยงไฮ้แฟชั่นวีค เพื่อสตรีมมิ่งแฟชั่นโชว์ส่งตรงจากรันเวย์ ซี่งมีแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Diane von Furstenberg เข้าร่วม
“ชาวจีนเจเนอเรชั่น Z โตมากับโลกในยุคที่ข่าวสารเดินทางอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ความลักชัวรีตั้งแต่อายุยังน้อย” ลูน่า หวังจากอาลีบาบา กล่าว ผู้บริโภคที่มีความรู้จะให้ความสนใจกับสินค้าที่มีความแตกต่าง ลิมิเต็ด โคแบรนด์และต้องการที่จะมีปฏิสัมพันธ์ กับแบรนด์อย่างลึกซึ้งมากขึ้น “ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและใช้เหตุผลเพื่อเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภคเหล่านั้น”
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์