อาลีบาบาปรับโครงสร้างใหม่มุ่งสร้างมูลค่าธุรกิจ
เครดิตภาพ: อาลีบาบา
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ประกาศเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจและการลงทุนอื่น ๆ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างมูลค่าธุรกิจแก่ของผู้ถือหุ้นและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาด
แดเนียล จาง (Daniel Zhang) จะยังดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งจะดำเนินการในรูปแบบการบริหารบริษัทโฮลดิ้ง ขณะที่กลุ่มธุรกิจทั้ง 6 กลุ่มจะถูกบริหารจัดการโดยซีอีโอและคณะกรรมการบริหารของตนเอง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการยกเครื่องธรรมาภิบาลครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ 24 ปีของบริษัท และเป็นการปรับตำแหน่งธุรกิจของอาลีบาบาให้ดีขึ้นเพื่อคว้าโอกาสทางการตลาดและกระตุ้นการเติบโต
“เพราะตลาดเป็นบททดสอบที่ดีที่สุดที่เปิดให้แต่ละกลุ่มธุรกิจและบริษัทสามารถดำเนินการระดมทุนได้อย่างอิสระ และเสนอขายหุ้น IPO เมื่อพวกเขาพร้อม” จาง กล่าวในจดหมายถึงพนักงาน
6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
- กลุ่มคลาวด์อัจฉริยะ (Cloud Intelligence Group)
- กลุ่มการค้าเถาเป่า ทีมอลล์ (Taobao Tmall Commerce Group)
- กลุ่มบริการในท้องถิ่น (Local Services Group)
- ไช่เหนียวสมาร์ทโลจิสติกส์ (Cainiao Smart Logistics)
- กลุ่มการค้าดิจิทัลระดับโลก (Global Digital Commerce Group)
- กลุ่มสื่อดิจิทัลและบันเทิง (Digital Media and Entertainment Group)
ซีอีโอแต่ละคนจะรายงานตรงต่อคณะกรรมการบริษัทและรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการปฏิบัติงานของบริษัท
จาง จะดำรงตำแหน่งซีอีโอของกลุ่มคลาวด์อัจฉริยะ (Cloud Intelligence Group) ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะเป็นศูนย์รวมของระบบคลาวด์ กิจกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ และธุรกิจต่าง ๆ เช่น DingTalk
กลุ่มการค้าเถาเป่า ทีมอลล์ (Taobao Tmall Commerce Group) จะนำโดย ไต้ ชาน (Trudy Dai) และจะรวมการบริหารธุรกิจการค้าทั้งหมดในจีน เช่น เถาเป่า, ทีมอลล์, Taobao Deals, Taocaicai, 1688 และธุรกิจอื่น ๆ ไว้ที่กลุ่มนี้
กลุ่มบริการในท้องถิ่น (Local Services Group) ได้แต่งตั้ง หยู่ โหย่ง ฟู๋ (Yu Yongfu) เป็นซีอีโอ และจะดูแลแพลตฟอร์ม Amap, Ele.me และธุรกิจอื่น ๆ ด้วย ขณะที่ ว่าน หลิน (Wan Lin) จะยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอของไช่เหนียวสมาร์ทโลจิสติกส์ (Cainiao Smart Logistics)
กลุ่มการค้าดิจิทัลระดับโลก (Global Digital Commerce Group) จะนำโดย เจี้ยง ฟ๋าน (Jiang Fan) ในฐานะซีอีโอ ซึ่งจะบริหารงานครอบคลุม Lazada, AliExpress, Trendyol, Daraz และ Alibaba.com ขณะที่ ฟาน ลู่ หยวน (Fan Luyuan) จะเป็นซีอีโอของกลุ่มสื่อดิจิทัลและบันเทิง (Digital Media and Entertainment Group) ทำหน้าที่บริหาร Youku, Alibaba Pictures และธุรกิจอื่น ๆ
แต่ละกลุ่มธุรกิจและการลงทุนอื่น ๆ จะยังคงดำเนินงานอย่างยืดหยุ่นเพื่อเปิดรับการระดมทุนจากภายนอกและเตรียมหาโอกาสเหมาะสมในการเสนอขายครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไป ยกเว้นไว้เพียงกลุ่มการค้าเถาเป่า ทีมอลล์ (Taobao Tmall Commerce Group) ซึ่งจะยังคงเป็นหน่วยที่กลุ่มอาลีบาบาเป็นเจ้าของทั้งหมด
“การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ธุรกิจของเราทั้งหมดมีความคล่องตัวมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการตัดสินใจ และช่วยให้เราตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้เร็วขึ้น” จาง กล่าวในจดหมายถึงพนักงาน
โครงสร้างที่คล่องตัว
ทั้งนี้ อาลีบาบากล่าวว่า บริษัทได้ออกแบบการปรับโครงสร้างเพื่อให้ตลาดมองเห็นมูลค่าของธุรกิจต่าง ๆ ของอาลีบาบาได้ดีขึ้น และช่วยสร้างมูลค่าธุรกิจแก่ผู้ถือหุ้น โดยกลุ่มบริษัท ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองหางโจว คาดว่าการย้ายครั้งนี้จะสร้างความเป็นเอกเทศในการบริหารมากขึ้น เนื่องจากแต่ละกลุ่มธุรกิจและการลงทุนอื่น ๆ จะมีแผนสร้างแรงจูงใจที่ปรับให้เหมาะสมกับตนเอง
การปรับโครงสร้างนี้จะดำเนินต่อไปในระยะยาวเพื่อไปสู่โครงสร้างองค์กรที่คล่องตัวขึ้น โดยเมื่อปี 2558 อาลีบาบาเคยนำเสนอกลยุทธ์แพลตฟอร์มกลาง (Middle-platform strategy) ซึ่งก่อให้เกิดรูปแบบองค์กรแบบ 1 บริษัท “แพลตฟอร์มกลางขนาดใหญ่ สำนักงานส่วนหน้าขนาดเล็ก” (One Company “large middle platform, small front office”) ขณะที่ในปี 2563 กลุ่มบริษัทได้ใช้โครงสร้างการกำกับดูแลองค์กรที่หลากหลาย ซึ่งช่วยส่งเสริมความรับผิดชอบในการบริหารงานของธุรกิจหลัก
ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ อาลีบาบาจะลดขนาดฟังก์ชันของสำนักงานส่วนกลางและส่วนหลังลงให้เหลือเท่ากับระดับกลุ่ม และจะคงไว้เฉพาะฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานตามข้อกำหนดของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น ความสามารถของสำนักงานส่วนกลางและส่วนหลังที่กลุ่มสร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะเปลี่ยนผ่านไปสู่กลุ่มธุรกิจและบริษัทที่เกี่ยวข้อง
“ในวัย 24 ปี อาลีบาบาพร้อมต้อนรับโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเติบโต” จาง กล่าว
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์