อาลีบาบาเพิ่มความพยามในการสร้างฮับ eWTP แบบดิจิทัล ในเมืองอี้อู ประเทศจีน

แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป ในงานลงนามเพื่อก่อตั้งโครงการร่วมทุนในการพัฒนาแพลทฟอร์มบริการซื้อขายข้ามพรมแดน eWTP ในอี้อู

อาลีบาบา กรุ๊ป และเทศบาลเมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ประกาศร่วมกันในการพัฒนา Digitized Comprehensive Bonded Zone หรือพื้นที่ที่มีสถานะเทียบเท่าด่านหรือท่าเรือ ภายใต้กรอบ eWTP (electronic World Trade Platform) เพื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ในอี้อู เข้าถึงอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการขยายโอกาสนำเข้าสินค้าจากตลาดอื่นๆ เช่น ประเทศไทย มายังผู้บริโภคชาวจีน

เมืองอี้อู อยู่ในใจกลางมณฑลเจ้อเจียง และเป็นหนึ่งในฮับสำคัญของการค้าข้ามพรมแดนในจีน รวมทั้งเป็นหนึ่งในตลาดค้าส่งสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ค้า 450,000 รายในอี้อูส่วนใหญ่เป็นธุรกิจระดับไมโคร จนถึงขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ขายหลักบนแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซและบริการดิจิทัลอื่นๆ ของอาลีบาบา

แผนขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างอาลีบาบาและเมืองอี้อู ยังถือเป็นโอกาสครบรอบหนึ่งปีที่มีการก่อตั้งฮับ eWTP ขึ้นในเมืองนี้ โดยพันธมิตรได้ร่วมกันก่อตั้งฮับดังกล่าวขึ้นในปีที่แล้ว เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านพาณิชย์ของอี้อูเป็นดิจิทัลและเอื้อต่อการค้าและโอกาสใหม่ๆ การขยายการพัฒนาในครั้งนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของการค้าโลกหลังจากเกิดโรคโควิด-19 ระบาด

หัวใจของโครงการนี้คือการร่วมทุนระหว่างอาลีบาบา กรุ๊ป และ China Commodities City Group ที่ตั้งอยู่ในอี้อู เพื่อพัฒนาแพลทฟอร์มบริการซื้อขายข้ามพรมแดน eWTP ขึ้นในอี้อู ซึ่งแพลทฟอร์มแบบรวมทุกอย่างในหนึ่งเดียวนี้จะนำเสนอบริการซื้อขายแบบดิจิทัลให้กับเอสเอ็มอี รวมถึงการผ่านพิธีการศุลกากร การชำระดุลธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และขั้นตอนด้านภาษีต่างๆ โดยถือเป็นแพลทฟอร์มบริการซื้อขายลำดับที่ 3 ในฮับ eWTP หลังจากที่มีการก่อตั้งไปแล้วก่อนหน้านี้ในเมืองหังโจว ประเทศจีน และเมืองลีแยฌ ประเทศเบลเยี่ยม

“ด้วยความได้เปรียบในด้านสินค้าและเป็นแหล่งของเอสเอ็มอี รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการค้าที่มีอยู่ ทำให้อี้อูเป็นจุดที่เหมาะสำหรับแผนเชิงกลยุทธ์ของเรา เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเดินหน้าได้ในยุคดิจิทัล อาลีบาบาจะทำงานร่วมกับอี้อูเพื่อเปลี่ยนเมืองนี้ให้กลายเป็นฮับซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ขนาดเล็ก รวมทั้งทำให้ท่าเรือกลายเป็นดิจิทัล เพื่อเป็นอีกก้าวไปสู่เป้าหมายร่วมกันในการทำให้การค้าโลกเป็นดิจิทัลอย่างสมบูรณ์” แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว

บุกเบิกการค้าปลีกรูปแบบใหม่เพื่อการซื้อขายสินค้าข้ามพรมแดน

โครงการร่วมทุนนี้ยังช่วยพัฒนา Yiwu Comprehensive Bonded Zone ที่ก่อตั้งโดยสภารัฐกิจจีนในเดือนเมษายนปีนี้ ให้กลายเป็นเขตการค้าที่มีความเป็นดิจิทัลมากที่สุดในประเทศจีน จุดเด่นของเขตการค้านี้คือพื้นที่จัดแสดงสินค้าแบบออฟไลน์ ซึ่งมีแผนที่จะนำร่องเปิดตัวในกลางเดือนกันยายนนี้

ทั้งนี้ Comprehensive bonded zones หรือพื้นที่ที่มีสถานะเทียบเท่าด่านหรือท่าเรือในจีน เป็นเขตการค้าที่จัดตั้งขึ้นเป็นพิเศษ โดยรัฐให้สิทธิพิเศษทางภาษีและนโยบายอื่นๆ ภายใต้การดูแลของหน่วยงานศุลกากร

สำหรับพื้นที่จัดแสดงสินค้าออฟไลน์ ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด New Retail ของอาลีบาบา เพื่อให้ผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าสามารถชมและสัมผัสสินค้านำเข้าที่นำเสนอโดยผู้ขายทั้งในและนอกแพลทฟอร์มของอาลีบาบาได้ ผู้ซื้อยังสามารถจ่ายเงินและนำสินค้านำเข้ากลับบ้านได้ทันที โดยพื้นที่จัดแสดงสินค้านำเข้านี้มีขนาด 20,000 ตารางเมตรและมีแนวโน้มที่จะขยายพื้นที่ขึ้นอีกในอนาคต

สนับสนุนการเปลี่ยนอี้อูให้การเป็นฮับกระจายสินค้านำเข้า

เพื่อตอบรับความต้องการสินค้าคุณภาพสูงจากต่างประเทศของผู้บริโภคจีน การเร่งพัฒนาอี้อูให้กลายเป็นฮับกระจายสินค้าโภคภัณฑ์นำเข้าจึงมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อาลีบาบา กรุ๊ป และเทศบาลเมืองอี้อูจึงได้ประกาศจัดตั้ง eWTP Yiwu Digital Customs Clearance Port หรือการผ่านพิธีการศุลกากรดิจิทัลของ eWTP ในอี้อูขึ้นเพื่อสนับสนุนความต้องการนี้ โดยจะมีระบบการผ่านพิธีการทางศุลกากรเพื่อช่วยให้ผู้ขายที่ต้องการส่งออกสินค้ามายังจีนในจำนวนไม่มากผ่านบริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ สามารถดำเนินพิธีการทางศุลกากรแบบออนไลน์ได้ จึงทำให้สามารถส่งสินค้าถึงมือผู้ซื้อได้อย่างรวดเร็ว

สร้างการเติบโตให้กับเอสเอ็มอีในอี้อู

นับตั้งแต่เปิดตัว eWTP ในอี้อู มีเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในการนำเข้าสินค้าแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยจากข้อมูลของ Alibaba.com ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสินค้าแบบ B2B ทั่วโลกของอาลีบาบา พบว่าซัพพลายเออร์ที่ตั้งอยู่ในอี้อู สามารถดึงดูดโอกาสทางธุรกิจจากบายเออร์เกือบ 3 ล้านได้รายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และมีการทำธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้น 82% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ภายใต้กรอบ eWTP ธุรกิจในอี้อูยังสามารถติดต่อกับคู่ค้าที่อยู่ในฮับ eWTP อื่นๆ จึงขยายโอกาสในการซื้อขายข้ามพรมแดนได้มากขึ้น

“เราเชื่อว่าการค้าโลกแบบดิจิทัลที่นำดิจิทัลมาใช้ในทุกแง่มุม กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง นับตั้งแต่ผู้ขายและสินค้า การสั่งซื้อและโลจิสติกส์ ไปจนถึงตู้คอนเทนเนอร์และใบเสร็จ ทุกๆ สิ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยฐานลูกค้าและตลาดที่อาลีบาบาและเมืองอี้อูมีร่วมกัน เราจะร่วมมือกันผลักดันนวัตกรรมด้านกฎระเบียบการค้า และเทคโนโลยี รวมทั้งโมเดลการค้า เพื่อนำเสนอบริการที่ยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าและตลาดต่างๆ รวมถึงสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภค” แดเนียล กล่าวเสริม

eWTP ริเริ่มขึ้นโดยอาลีบาบา กรุ๊ป ที่ก่อตั้งโดยแจ็ค หม่า ถือเป็นโครงการที่นำโดยภาคเอกชนและทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายส่วน เพื่อทำให้เกิดการพูดคุยระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสร้างความร่วมมือเพื่อแบ่งปันการทำงานที่เป็นเลิศ สร้างกฎการค้าใหม่ และทำให้เกิดนโยบายที่บูรณาการมากขึ้น รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ช่วยพัฒนาการค้าแบบมีส่วนร่วมและเศรษฐกิจดิจิทัล จนถึงปัจจุบันอาลีบาบา กรุ๊ป ได้ร่วมกับรัฐบาลเบลเยี่ยม มาเลเซีย รวันดา และเอธิโอเปีย รวมทั้งเมืองหัวโจว และเมืองอี้อู้ ในจีน เพื่อก่อตั้งฮับ eWTP ทั้งหมด 6 แห่งทั่วโลก

eWTP การค้าปลีกรูปแบบใหม่ การส่งออกสินค้าไทย แจ็คหม่า แดเนียลจาง โควิด-19