อาลีบาบารักษามาตรฐานด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์

อาบีบาบา กรุ๊ป ได้เพิ่มขีดความสามารถและเพิ่มประสิทธิภาพ ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อป้องกันบริษัทจากภัยคุกคามทางไซเบอร์  และรับมือกับการถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในช่วงปีที่ผ่านมา

โดยในรายงานประจำปีระบุว่า บริษัทฯ มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีในด้านต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมยังได้รับโอกาสให้เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นหน้าร้านออนไลน์ให้แก่บริษัทพันธมิตรมากมาย ทำให้บริษัทจำเป็นต้องมีการดูแลรับมือกับการถูกละเมิดคุกคามทางไซเบอร์อย่างเข้มงวด และที่ผ่านมาก็สามารถจัดการและป้องกันได้เป็นอย่างดี

รายงานประจำปียังระบุต่ออีกว่า อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญาของทั้งบริษัทตนและบริษัทคู่ค้าในเครือพันธมิตร ตลอดระยะเวลาที่ได้ให้บริการด้านธุรกิจ โดยในแต่ละปีจะมีการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้ในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา

อ่านรายงานการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของ อาลีบาบา กรุ๊ป ปี 2018 ได้ที่นี่

การปรับปรุงสำคัญ ที่เป็นผลมาจากโปรแกรมการป้องกัน IP ที่มีประสิทธิภาพของอาลีบาบา ประกอบด้วย:

  • 96% ของรายชื่อที่ถูกลบในเชิงรุก ก่อนจะมีการขายเพียงครั้งเดียว
  • คำขอลบโดยเจ้าของสิทธิ์ ลดลง 32% เทียบกับปีก่อนหน้า
  • 96% ของคำขอลบ ที่ส่งผ่านแพลตฟอร์มการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของอาลีบาบา (แพลตฟอร์ม IPP) ที่ดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง
  • จำนวนร้านค้าที่ถูกลบโดยการรายงานจากผู้ซื้อ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ลดลง 70% จากปีที่ผ่านมา
  • ความร่วมมือกับแบรนด์และการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลให้มีการจับกุมและสั่งปิดโรงงานที่ผิดกฎหมาย มีจำนวนมากขึ้นกว่าเมื่อปีที่ผ่านมา

(ดูข้อมูลเพิ่มเติม จากกราฟด้านล่างนี้)

นอกจากให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีแล้ว อาลีบาบายังให้ความสำคัญกับการถูกปลอมแปลงและการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย โดยได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งรวมถึงผู้ถือสิทธิ์กับสมาคมอุตสาหกรรมของรัฐบาลและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย โดยในปีที่ผ่านมาการเป็นสมาชิกในกลุ่มพันธมิตรต่อต้านการปลอมแปลงของอาลีบาบา ร่วมกับอุตสาหกรรมและความรู้ทางเทคนิคในการต่อสู้กับกลุ่มผู้ไม่หวังดีบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ได้เติบโตขึ้นเป็น 121 แบรนด์ทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 30 ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2560

โดยในรายงานมีการระบุว่า “การเติบโตดังกล่าวไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอาลีบาบา ในการร่วมมือกับผู้ถือสิทธิ์ในยุคดิจิตอลเพียงเท่านั้น แต่ยังเพิ่มการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรม AACA ในฐานะชุมชนสำคัญที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย”

การสนทนาแบบตัวต่อตัว

ทีมผู้บังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาของอาลีบาบา ได้เดินทางไปที่นครบอสตันในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2562 เพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของสมาคมต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ (IACC) และสมาคมเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ (INTA)

อาลีบาบาออกแบบที่ประชุม IACC ให้เป็นการประชุมแบบโต๊ะกลม พร้อมนำเสนอแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับเจ้าของแบรนด์ รวมถึงเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยถึงแนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกัน IP และทรัพยากรในกลุ่ม ในการนี้อาลีบาบายังได้เข้าร่วมทีมกับ P&G ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการปลอมแปลงของสหราชอาณาจักร เวสเทิร์นยูเนี่ยน และกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการตรวจสอบแบบออฟไลน์ และยังได้เข้าร่วมในคณะทำงาน E-Commerce ซึ่งประสานงานโดยศูนย์ประสานงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง คณะทำงานได้รวบรวมบริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ผู้ส่งสินค้า บริการชำระเงิน และหน่วยงานรัฐบาลกลาง ของสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง เช่น ICE, FBI และกระทรวงยุติธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยกำจัดกลุ่มผู้ค้าขายสินค้าลอกเลียนแบบ โดยอาลีบาบาจะเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมร่วมกับผู้ให้บริการ IP ออนไลน์ เพื่อนำเสนอการปรับปรุงบนแพลตฟอร์มการป้องกัน IP ล่าสุด ให้กับแบรนด์ต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม

ในคำปราศรัยเปิดการประชุม IACC Spring Conference เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นาย Bob Barchiesi ในฐานะประธาน IACC ได้กล่าวยกย่องความเป็นผู้นำของอาลีบาบาในด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากความร่วมมือของทั้งสองว่า “เราร่วมทีมกับอาลีบาบาในขณะที่ทุกคนยังสงสัยและไม่เชื่อในความสามารถ และผลงานที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราเลือกทางเดินที่ถูกต้อง” การทำงานร่วมกันของทั้งสองยักษ์ใหญ่ในการขยายตลาด IACC MarketSafe ทำให้จำนวนผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ลดลงไปแล้วกว่าหนึ่งแสนราย

ในระหว่างการประชุม INTA ในสัปดาห์ถัดมา อาลีบาบาได้จัดการประชุมร่วมกับผู้นำระดับสูงของกลุ่มพันธมิตรต่อต้านการปลอมแปลงขึ้น เพื่อหารือเกี่ยวกับการริเริ่มของพันธมิตรและประเด็นที่สำคัญต่อการปกป้องแบรนด์ โดยตลอดการประชุมทั้งสองครั้ง อาลีบาบาได้พบปะแบบตัวต่อตัวกับแบรนด์ไปแล้วกว่า 25 แบรนด์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และสำรวจวิธีการเสริมสร้างความร่วมมือจากทุกฝ่าย

เสาหลักทั้ง 3 ต้น 

ในรายงานการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาประจำปีของอาลีบาบา บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในการริเริ่มโครงการ IPR (Intellectual Property Rights) ที่บริษัทจัดทำขึ้น:

ประกาศที่ได้รับการปรับปรุงและการนำออก: แพลตฟอร์ม IPP (Intellectual Property Protection) ของอาลีบาบาได้อนุญาตให้แบรนด์ส่งคำขอออนไลน์เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของตน โดยในปี 2561 ได้มีการพัฒนาเพื่อให้แบรนด์สามารถติดตามกระบวนการร้องเรียนได้อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งรูปแบบการยื่นเรื่องโต้แย้ง อาลีบาบายังได้ทำการขยายการสนับสนุนให้กับแบรนด์ต่างๆ ผ่านทางเบอร์โทรศัพท์และอีเมลที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้แพลตฟอร์ม IPP ยกตัวอย่างเช่น คำถามที่พบบ่อย กรณีศึกษาต่างๆ และคำแนะนำจากบริษัท อีกทั้งโปรแกรมอย่าง “Good Faith” ที่ช่วยทำให้การถือสิทธิ์เป็นเรื่องง่ายขึ้น ด้วยระบบการเปลี่ยนคำขอถือสิทธิ์จากแบรนด์ต่างๆ ให้กลายเป็นสมาชิกแบบอัตโนมัติ และข้อกำหนดด้านการเข้าร่วมต่างๆ ที่ไม่เข้มงวดเท่าสมัยก่อน ทำให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 44% เทียบกันเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2561

เทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับการตรวจสอบเชิงรุก:

อาลีบาบาได้นำเทคโนโลยีต่างๆ เช่น อัลกอริธึม เข้าใช้เพื่อให้การรับรู้ภาพ การติดตาม และสกัดกั้น สามารถทำได้ในแบบเรียลไทม์ โดยใช้ระบบการระบุทางชีวภาพและอัลกอริทึมเพื่อตรวจจับพฤติกรรมการค้าที่ผิดปกติ โดยในปี 2561 บริษัท เริ่มวิเคราะห์รูปแบบทางอารมณ์และความหมายในช่องแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเชิงลบต่อร้านค้าเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการสืบสวน วิเคราะห์ปริมาณ ตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัย เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีการจดจำเสียงและความหมาย การจดจำภาพและตัวอักษร ของระบบอัลกอลิธึม เพื่อช่วยตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีการปลอมแปลงใดๆ

การทำงาน กับการบังคับใช้กฎหมาย:

“การขายสินค้าปลอมแปลงบนโลกออนไลน์ เป็นภาพสะท้อนกิจกรรมกาตรวจสอบออฟไลน์ของอาลีบาบาได้อย่างชัดเจน”  โดยในปี 2561 บริษัท ยังได้ส่งเสริมการกำกับดูแลสินค้าออนไลน์อย่างต่อเนื่องด้วยการตรวจสอบออฟไลน์ และได้มีส่วนร่วมกับการบังคับใช้กฎหมายที่ขยายตัวเป็น 31 จังหวัด ภูมิภาค และเทศบาล ทั่วปทั้งระเทศจีน และยังให้โอกาสการขายที่เกี่ยวข้องกับ IP ถึง 1,634 รายการ ส่งผลให้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีอาญาไปแล้วกว่า 1,953 คน และสั่งปิดโรงงานไปแล้วกว่า 1,542 แห่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 7.9 พันล้านหยวน

นอกจากนี้ ยังมีบทบาทที่ผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมในการต่อสู้คดีกับผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้อีกด้วย โดยความพยายามในการร่วมมือกันของผู้เสียหายและการเผยแพร่ข้อมูล จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงเครื่องมือป้องกัน และการทำงานของ AACA ได้ ทั้งหมดนี้มีความสำคัญยิ่งในการปกป้องแบรนด์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของอาลีบาบา และทำให้มีความปลอดภัยต่อทั้งผู้ค้าและผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น

อาลีบาบา กล่าวว่า “บริษัทเข้าใจว่าความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญต่อความยั่งยืนของธุรกิจและสุขภาพของผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่มีคุณภาพ จะเป็นหัวใจสำคัญของความไว้วางใจ และในฐานะผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก อาลีบาบายังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของผู้ประกอบการทุกๆ คนต่อไป”

คุ้มครองสิทธิ ทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ละเมิด อาบีบาบา