เปิด 10 เทรนด์สินค้าฮิต ยอดขายพุ่งแรงในปี 2023

บทความต่อไปนี้ได้รับการเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษครั้งแรกบน Alibaba.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม B2B ของ Alibaba Group สำหรับการค้าโลก และได้รับการดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยสำหรับ AlibabaNewsThai ดูบทความต้นฉบับ คลิก ที่นี่

ความขัดแย้งทั่วโลก การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และการขาดแคลนพลังงาน ดูเหมือนจะยกขบวนมาเกิดขึ้นพร้อมๆ กันปี 2022 แต่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำ อีคอมเมิร์ซก็ยังคงเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าและบริการที่มั่นคงสำหรับร้านค้าออนไลน์แบบ B2B

อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานระบุว่ายอดขายทั่วโลกอาจโตเกิน 5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้[1] และด้วยยอดขายที่ถีบตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด ภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบ B2B กำลังจะมีมูลค่าถึง 13.6 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2560[2] เลยทีเดียว นั่นจึงหมายความว่าปี 2566 ที่จะมาถึงนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความยิ่งใหญ่ของอีคอมเมิร์ซ

ดังนั้น ผู้ขายคร่ำหวอดในวงการย่อมต้องรู้จักวางกลยุทธ์เพื่อใช้ประโยชน์จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าคุณจะวางแผนเข้าสู่การขายแบบดิจิทัล หรือต้องการขยายแคตตาล็อกสินค้าออนไลน์ นี่คือรายการผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่จะฮิตติดเทรนด์ในปี 2566

1. สุขภาพและไลฟ์สไตล์

การมีสุขภาพและพลานามัยที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้คนยุคนี้ จากข้อมูลของ World Economic Forum พบว่า ประชากร 62% สารภาพว่าพวกเขาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้นกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด[3] ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมสำหรับหมวดนี้ ได้แก่:

  • อาหารเสริมทางการแพทย์: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น Ashwagandha ที่ช่วยในเรื่องภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายและพัฒนาสมรรถภาพทางกีฬา[4] ถูกค้นหาทางออนไลน์เพิ่มขึ้นพอๆกับผลิตภัณฑ์สุดแปลกอย่าง กาแฟเห็ด ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างเห็ดบดที่มีสรรพคุณทางยาเทียบเท่าแผงคอสิงโต กับเมล็ดกาแฟ
  • เครื่องฟอกอากาศ: ด้วยความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในเมืองใหญ่ๆหลายแห่ง เครื่องฟอกอากาศจึงมีแนวโน้มเป็นตัวเลือกในการเปลี่ยนสภาพอากาศที่มีมลพิษให้สะอาดสดชื่น
  • มัทฉะ: มัทฉะเป็นชาเขียวที่มีคาเฟอีน และกำลังเป็นที่นิยมในแวดวงสุขภาพและความงาม
  • ขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้: ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพกำลังส่งเสริมให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เช่น ขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้

2. แฟชั่น

ถือเป็นสินค้าหลักที่ครองตลาดอีคอมเมิร์ซแบบ B2B อย่างไรก็ตาม เทรนด์ล่าสุด อย่างเช่น การกลับไปทำกิจกรรมกลางแจ้งและการมีส่วนร่วมในสังคม กำลังสร้างความนิยมในสินค้าแฟชั่นบางรายการให้มาแรงแซงโค้งในปี 2566 นี้ ได้แก่:

  • กางเกงยีนส์เอวสูง: เสื้อผ้าสำหรับใส่กลางแจ้งกำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะกางเกงยีนส์เอวสูง ซึ่งยังคงครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน
  • Athleisure: ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นในรองเท้าผ้าใบ และแบรนด์ต่างๆ อย่าง Nike และ Lululemon จึงทำให้ชุดกีฬากลายเป็นแฟชั่น โดยลูกค้ามักจะชอบสไตล์ และความสะดวกสบายขณะสวมใส่
  • ผ้าคลุมศีรษะ: ผ้าพันคอที่มาพร้อมลวดลายและสีสันสวยงามหลากหลาย รวมทั้งสามารถเข้าได้กับเครื่องแต่งกายเกือบทุกแบบ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นการค้นหาผ้าคลุมศีรษะที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากใน Google Trends [5]
  • ชุดกระชับสัดส่วน: ยอดขายชุดกระชับสัดส่วน โดยเฉพาะกางเกงเลกกิ้ง เพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ เนื่องจากผู้คนรู้สึกชื่นชอบเสื้อผ้าที่ให้ความสะดวกสบาย และดูเหมือนแนวโน้มนี้จะยังคงอยู่ต่อไปในปี 2566 ด้วย

3. ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและความงาม

อุตสาหกรรมความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายมีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 50% และจะมีรายได้มากถึง 131,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2569[6] รายการสินค้าที่เป็นผู้นำเทรนด์ในปีหน้า ได้แก่:

  • เล็บติดเองได้: ด้วยสไตล์สุดเก๋ ราคาไม่แพง และใช้งานง่าย ทำเล็บติดเองกลายเป็นที่นิยมของลูกค้าอย่างไม่น่าแปลกใจ
  • วิกผม: ตลาดต่อผมเป็นหนึ่งในหมวดที่มีชีวิตชีวาที่สุดทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 13%[7] ซึ่งไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงในปี 2566 นี้แน่นอน
  • Sleeping mask: นอกจากจะช่วยให้นอนหลับได้เร็วและสบายยิ่งขึ้น Sleeping mask ยังปกป้องดวงตาจากแสงจ้าที่รบกวนการนอนหลับได้อีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ลูกค้าพากันหลงรักไอเทมนี้
  • แปรงสีฟันไฟฟ้า: มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ใช้งานง่ายกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่าแปรงสีฟันแบบธรรมดา
  • น้ำมันใส่ผม: เป็นผลิตภัณฑ์ unisex ที่ได้รับความนิยมทั้งจากผู้ชายและผู้หญิง

4. อุปกรณ์ในครัว

แม้ว่าอาหารจานด่วนและการสั่งอาหารกลับมาทานที่บ้านจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด แต่ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากขึ้นหันกลับไปรับประทานอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน ตามรายงานจาก PM News Wire ผู้บริโภค 7 ใน 10 รายจะยังคงปรุงอาหารที่บ้านต่อไป แม้จะผ่านพ้นช่วงการระบาดใหญ่ไปแล้วก็ตาม สินค้าขายดีในหมวดนี้ ได้แก่

  • หม้อทอดไร้น้ำมัน: ถือเป็นสินค้าที่หาได้ทุกที่และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุด ผู้บริโภคต่างสนุกกับความอเนกประสงค์และความสะดวกในการใช้งานของเจ้าหม้อทอดไร้น้ำมันนี้
  • เครื่องปั่นแบบพกพา: เช่นเดียวกับหม้อทอดไร้น้ำมัน เครื่องปั่นแบบพกพานั่นใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ผู้ซื้อสามารถปั่นน้ำผักผลไม้ สมูทตี้ และเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา
  • อุปกรณ์จัดเก็บต่างๆในครัว: เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็นวิดีโอไวรัลใน TikTok มาแล้วอย่างแน่นอน สินค้ากลุ่มนี้ ตลอดจนตู้เก็บของ ชั้นวางของสำหรับจัดระเบียบอุปกรณ์ รถเข็น และชั้นจัดระเบียบตู้กับข้าวแบบแขวนประตู ไม่มีอะไรจะเหมาะกับครัวของคุณไปมากกว่านี้แล้ว

5. ของแต่งบ้าน

สินค้าสำหรับตกแต่งบ้านยังคงมียอดขายและการเติบโตที่แข็งแกร่ง ด้วยมูลค่าตลาดที่สูงทะลุ 641.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 และคาดว่าจะเติบโตในอัตรา 4.8% ต่อปีระหว่างปี 2564 – 2569[8] ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดนี้ ได้แก่:

  • พรมเช็ดเท้าสำหรับตกแต่ง: พรมเช็ดเท้าที่มีดีไซน์น่ารัก ข้อความเก๋ๆ และมาพร้อมคุณสมบัติมากมาย กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน
  • ม่านทึบแสง: เพื่อหลีกหนีจากแสงสว่าง และผ้าม่านลายดอกไม้สุดเฉิ่ม ผู้คนหันมาเลือกม่านหน้าต่างทึบแสงแบบหนาที่ทำจากวัสดุสีเข้ม เพื่อทำให้ห้องของพวกเขาเย็นสบายและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
  • โคมไฟข้างเตียง: นอกจากประโยชน์ใช้สอยแล้ว โคมไฟข้างเตียงยังเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สามารถสร้างไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นของคุณได้ และด้วยความสะดวกในการติดตั้ง จึงไม่น่าแปลกใจที่นักช้อปจะชื่นชอบของแต่งบ้านชิ้นนี้
  • Sofa bed: ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสบายและไลฟ์สไตล์ เหมาะกับวันชิลๆ ที่คุณจะได้นั่งหรือนอนเล่นในห้องนั่งเล่นพร้อมกับดูหนังดีๆสักเรื่องกับคนที่คุณรัก

6. การดูแลเด็ก

แม้ว่าปัจจุบันผู้คนจำนวนมากจะมองเรื่องการมีบุตรเป็นเรื่องรอง แต่ตัวเลขการใช้จ่ายสุทธิล่าสุดในสินค้าหมวดนี้กลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะผู้ปกครองต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ดีสำหรับลูก ๆ ของพวกเขา และยังต้องการสร้างไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่ผู้คนมักหาซื้อทางออนไลน์ ได้แก่ :

  • เป้อุ้มเด็ก: เป้อุ้มเด็กยังคงมีความต้องการสูง และครองแชมป์การถูกค้นหาทางออนไลน์มาโดยตลอด
  • เบบี้มอนิเตอร์: เพราะพ่อแม่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆเสมอ เบบี้มอนิเตอร์จึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรับประกันความปลอดภัยของลูกๆได้ โดยเฉพาะโมเดลที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การพูดคุยสองทาง การมองเห็นตอนกลางคืน และมุมไดนามิก ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้น
  • เปรสำหรับทารก: ไอเทมนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ปกครองที่กำลังเลี้ยงลูกวัยแบเบาะ การแกว่งไกวอย่างนุ่มนวลของเปรแบบพิเศษนี้ ช่วยให้ทารกหลับสบาย และเพิ่มเวลาแห่งความเงียบสงบแก่คุณพ่อคุณแม่
  • ของเล่นเด็ก: ถือเป็นสินค้าหลักของอีคอมเมิร์ซทั่วโลกมายาวนาน แค่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่เดียว ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นถึง 17% ในปี 2564[9]

7. ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง

ตลาดการดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอีกเทรนด์สุดร้อนแรงของโลกอีคอมเมิร์ซ ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของหมวดนี้ ได้แก่ :

  • สายรัดอกสุนัข: สายรัดอกสุนัขนั้นให้ความรู้สึกสบายกว่าปลอกคอทั่วไป เนื่องจากไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณเมื่อยคอ
  • ที่นอนแมว: เนื่องจากจำนวนทาสแมวที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ[10] ทำให้อุปกรณ์เสริมสำหรับแมว อาทิ ที่นอนแมว ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปด้วย
  • เป้อุ้มสัตว์เลี้ยง: เป้อุ้มสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเดินทางกับลูกๆขนฟูของตน โดยรายงานจาก Google Trends ระบุว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความต้องการสูงขึ้นอย่างมาก

8. อุปกรณ์สำนักงาน

เนื่องจากการทำงานจากระยะไกลเข้ามามีบทบาทในหลายๆ องค์กร พนักงานจำนวนมากขึ้นจึงสร้างโฮมออฟฟิศ และพื้นที่สำหรับทำงานภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในหมู่คนที่ต้องกลับไปทำงานในออฟฟิศ ก็ยังมีความต้องการเนรมิตให้สิ่งแวดล้อมในการทำงานของพวกเขาปลอดภัย และสะดวกสบายขึ้น ด้วยเครื่องมือยอดฮิตเหล่านี้:

  • แว่นกรองแสงสีฟ้า: เรียกอีกอย่างว่าเลนส์โฟโตโครมิก ถือเป็นสินค้าอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมเนื่องจากช่วยรักษาสุขภาพดวงตา
  • ไมค์พอดคาสต์: ยอดขายไมค์พอดคาสต์เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีโรคระบาด เนื่องจากผู้คนเริ่มใช้พอดคาสต์มากขึ้น และเทรนด์ดังกล่าวก็ดูเหมือนจะยังคงร้อนแรง จนทำให้ยอดขายไมค์พอดคาสต์โตไวไม่มีตก
  • ปลั๊กอัจฉริยะ: ปลั๊กไฟที่สามารถเชื่อมต่อกับ AI ของสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสั่งเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ ผ่านการสั่งเปิด-ปิดปลั๊กอัจฉริยะนั่นเอง
  • แผ่นรองเมาส์: แผ่นรองเมาส์กำลังเป็นไอเทมที่มียอดจำหน่ายพุ่งสูง เนื่องจากผู้คนจำนวนมากขึ้นชอบการใช้เมาส์แยก แม้ว่าจะใช้กับแล็ปท็อปก็ตาม

9. ฤดูหนาว

แคมเปญลดกระหน่ำประจำฤดูหนาวได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ และจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2566  ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานและสินค้าที่อาจมีจำนวนจำกัด ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้น จึงมองหาอุปกรณ์สำหรับฤดูหนาวที่จำเป็น โดยสินค้าที่กำลังมาแรงในหมวดนี้ได้แก่:

  • ผ้าพันคอแบบหนา: นอกจากความอบอุ่นสบายและประโยชน์ใช้สอย ไอเทมชิ้นนี้ยังเป็นสินค้าแฟชั่นที่สามารถเข้าได้กับชุดต่างๆด้วย
  • รองเท้าบูทกันหนาว: รองเท้าที่แข็งแรงและมีสไตล์เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่นักช้อปอายุน้อย
  • แจ็กเก็ตผ้าขนสัตว์: ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ แจ็คเก็ตเหล่านี้จึงไม่เพียงเป็นที่ต้องการสำหรับการใช้งานกลางแจ้งเท่านั้น แต่ยังเหมาะจะใช้ภายในอาคารอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่พลังงานอาจขาดแคลน
  • ถุงเท้าหนา: ควบคู่ไปกับรองเท้าบูทกันหนาวแบบกันน้ำ ผู้ขายควรเตรียมรับมือกับออร์เดอร์สั่งซื้อถุงเท้าหนาที่จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
  • นวมกันหนาว: ถุงมือกันหนาวเป็นที่ต้องการทั้งในแง่การใช้งาน ความสบาย และสไตล์

10. Gadgets

Gadgets และเครื่องใช้ไฟฟ้ามักจะมียอดขายทางออนไลน์ที่ดี ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามาโดยตลอด ส่งผลให้มูลค่าทางการตลาดของอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 413 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2573[11] ผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูง ได้แก่:

  • เคสโทรศัพท์: ขายดีตลอดกาล และในปี 2566 นี้ก็เช่นกัน
  • พาวเวอร์แบงค์: ขวัญใจของคนติดสมาร์ทโฟนโดยแท้จริง เพราะพาวเวอร์แบงค์สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้ทุกที่ และยิ่งปัจจุบันที่แหล่งพลังงานมีจำกัดและต้องประหยัด ตลาดพาวเวอร์แบงค์จึงพลอยบูมไปด้วย
  • เครื่องผลิตไฟฟ้าแบบพกพา: ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นต้องการควบคุมการใช้พลังงานของตน เครื่องผลิตไฟฟ้าแบบพกพาจึงเป็นตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียว

 

Alibaba.com B2B Export