อาลีบาบาเผย 10 อันดับแนวโน้มเทคโนโลยีชั้นนำในอนาคต
Alibaba DAMO Academy (“DAMO”) โครงการริเริ่มด้านการวิจัยระดับโลกโดย อาลีบาบา กรุ๊ป ระบุแนวโน้มที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคต
10 อันดับแนวโน้มด้านเทคโนโลยีสำหรับช่วงสองถึงห้าปีข้างหน้าที่ DAMO ยกมานำเสนอนั้น เป็นแนวโน้มที่คาดว่าจะได้เห็นการพัฒนาอย่างรวดเร็วและจะสร้างผลกระทบกับทุกภาคส่วนทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ซึ่งผ่านการวิเคราะห์จากรายงานวิจัยหลายล้านฉบับและการยื่นจดสิทธิบัตรในช่วงสามปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการสัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์เกือบ 100 คน
เจฟ จาง หัวหน้าสถาบัน Alibaba DAMO Academy กล่าวว่า “ช่วงศตวรรษที่ผ่านมา วิวัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก โดยขอบเขตของเทคโนโลยีขยายจากโลกทางกายภาพไปสู่โลกเสมือน (Mixed Reality) ซึ่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นเรื่อย ๆ นี้ก็เริ่มผันไปสู่การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต่อไป”
“เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ไม่ว่าจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและกลไกการผลิตที่ประหยัดพลังงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ออฟฟิศที่ไม่ใช้กระดาษ ดังนั้นจึงพูดได้ว่า เราสามารถสร้างอนาคตที่ดีกว่าด้วยเทคโนโลยี”
ในอีกสองปีข้างหน้า คาดว่าจะได้เห็นการใช้งานแอปพลิเคชันบนระบบคอมพิวติ้งใหม่ที่มากขึ้น ดังนี้:
#1 การผสมผสานระหว่างคลาวด์-เครือข่าย-อุปกรณ์ (Cloud-Network-Device Convergence)
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาของคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ไปสู่ระบบคอมพิวติ้งแบบใหม่ของการผสมผสานระหว่างคลาวด์-เครือข่าย-อุปกรณ์ (Cloud-Network-Device Convergence)
ในอีกสามปีข้างหน้า คาดว่าจะได้เห็นการนำ AI ไปใช้อย่างกว้างขวางในกระบวนการวิจัยของวิทยาศาสตร์ประยุกต์ รวมถึงจะมีการใช้ชิปซิลิคอนโฟโตนิกอย่างแพร่หลายในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Large-scale Data Center) อีกด้วย นอกจากนี้ AI จะช่วยรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับระบบไฟฟ้ากำลัง (Power Grid) ในอนาคต ส่วนยารักษาโรคก็จะแม่นยำและคำนึงถึงคนไข้เป็นหลักมากขึ้นจนกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ อีกทั้งยังมี AI ที่ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและความสามารถในการตีความ รวมไปถึงแว่นตา XR รุ่นใหม่อีกด้วย
#2 AI เพื่อวิทยาศาสตร์ (AI for Science)
AI จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในกระบวนการวิจัยของวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และจะใช้เป็นเครื่องมือในการผลิตวิทยาศาสตร์พื้นฐานอีกด้วย
#3 ชิปซิลิคอนโฟโตนิก (Silicon Photonic Chips)
จะมีการใช้ชิปซิลิคอนโฟโตนิกอย่างแพร่หลายในการส่งข้อมูลความเร็วสูงในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Large-scale Data Center)
#4 AI เพื่อพลังงานหมุนเวียน (AI for Renewable Energy)
AI จะช่วยรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนกับระบบไฟฟ้ากำลัง (Power Grid) เข้าด้วยกัน และทำให้การใช้ระบบไฟฟ้ากำลังมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้
#5 ยาที่มีความแม่นยำสูง (High-precision Medicine)
ยาที่มีความแม่นยำโดยคำนึงถึงคนไข้เป็นหลักจะกลายเป็นแนวโน้มที่สำคัญที่จะขยายขอบเขตของการดูแลสุขภาพ รวมถึงการป้องกันโรค การวินิจฉัย และการรักษาโรค
#6 AI ที่ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ (Privacy-preserving Computation)
ระบบคอมพิวติ้งที่ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลได้จะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานและความสามารถในการตีความ และเราจะได้เห็นหน่วยงานด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูล (Data Trust) ที่ให้บริการในการแชร์ข้อมูลจากเทคโนโลยีมากขึ้น
#7 Extended Reality (XR)
แว่นตา XR รุ่นใหม่ที่มีลักษณะเหมือนแว่นสายตาธรรมดาจนแยกไม่ออกนั้นจะเข้าสู่ตลาดและจะทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสู่อินเทอร์เน็ตในอนาคต
ในอีกห้าปีข้างหน้า คาดว่าจะเห็นหุ่นยนต์นิ่ม (Soft Robotics) ที่มีความสามารถรับรู้ได้เข้ามาแทนที่หุ่นยนต์ทั่วไปในอุตสาหกรรมการผลิต รวมไปถึงดาวเทียมและระบบภาคพื้นดินที่ทำงานเป็นคอมพิวติ้งโหนด (Computing Nodes) ที่ให้การเชื่อมต่อที่แพร่หลาย:
#8 หุ่นยนต์นิ่มที่มีความสามารถรับรู้ (Perceptive Soft Robotics)
หุ่นยนต์นุ่มที่มีความสามารถรับรู้จะเข้ามาแทนที่หุ่นยนต์ทั่วไปในอุตสาหกรรมการผลิต และเตรียมพร้อมสู่การนำหุ่นยนต์บริการไปใช้ในชีวิตประจำวันของเราในวงกว้าง
#9 ระบบคอมพิวติ้งที่รวมดาวเทียมและภาคพื้นดินเข้าด้วยกัน (Satellite-terrestrial Integrated Computing)
ดาวเทียมและระบบภาคพื้นดินจะทำงานเป็นโหนดคอมพิวติ้ง เพื่อประกอบเป็นระบบเครือข่ายที่รวมเข้าด้วยกันซึ่งทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่แพร่หลาย
ยิ่งไปกว่านั้น คาดว่าจะได้เห็น AI ในอนาคตเปลี่ยนเป็นวิวัฒนาการร่วมของโมเดลขนาดใหญ่และเล็กผ่านระบบ Cloud, ระบบ Edge และอุปกรณ์ต่าง ๆ
#10 วิวัฒนาการร่วมของโมเดล AI ขนาดใหญ่และเล็ก (Co-evolution of Large- and Small-scale AI Models)
AI ในอนาคตกำลังเปลี่ยนจากการแข่งเรื่องความสามารถในการปรับขนาดแบบจำลองพื้นฐานเป็นวิวัฒนาการร่วมของแบบจำลองขนาดใหญ่และขนาดเล็กผ่านระบบ Cloud, ระบบ Edge และอุปกรณ์ ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าในทางปฏิบัติ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่: https://damo.alibaba.com/techtrends/2022?lang=en
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์