NaRaYa ร่วมมือ Alibaba Cloud เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า

บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย NaRaYa (นารายา) ไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำสัญชาติไทย ได้เริ่มต้นเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลไปกับอาลีบาบา คลาวด์ เทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นเสมือนกระดูกสันหลังอัจฉริยะของอาลีบาบา กรุ๊ป โดยก้าวสำคัญนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภค และสนับสนุนการขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งในประเทศไทยและระดับภูมิภาค

ด้วยความร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ นารายาหวังว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นารายา คือ ไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำที่มีสาขารวม 18 แห่งทั่วโลก ครบครันด้วยผลิตภัณฑ์มากมาย ตั้งแต่กระเป๋าถือ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ที่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ของนารายาได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจและพิถีพิถัน ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพสูง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานชั้นดีในราคาที่เหมาะสม ตลอดระยะเวลาของการประกอบธุรกิจ บริษัทมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และยังสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนท้องถิ่นผ่านการสร้างงาน

อย่างไรก็ตาม การระบาดของโรคโควิด 19 ได้เข้ามาสร้างจุดเปลี่ยนในทุกอุตสาหกรรม อันเนื่องมาจากมาตรการควบคุมการพบปะกันระหว่างผู้คนและมาตรการการเดินทาง ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภค ถือได้ว่า อีคอมเมิร์ซได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม

นารายา ตระหนักถึงความท้าทายเหล่านี้ จึงได้ใช้บริการเทคโนโลยีจาก อาลีบาบา คลาวด์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบบริการ ออนไลน์ ทั้งนี้ การใช้ประโยชน์จากคลาวด์โซลูชันชั้นนำอย่าง Elastic Compute Services, Alibaba Cloud CDN และ Object Storage Service (OSS) ซึ่งล้วนเป็นระบบเดียวกันกับที่อาลีบาบา กรุ๊ป ใช้เพื่อสนับสนุนเทศกาลช้อปปิ้งระดับโลกอย่าง มหกรรม 11.11 ได้อย่างราบรื่นโดยไม่พบปัญหาระบบล่ม ทำให้นารายาสามารถสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีความหน่วงต่ำและคล่องตัวยิ่งกว่าเดิม เพื่อส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นไร้รอยต่อ อีกทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคมากขึ้น

“คลาวด์โซลูชั่นของอาลีบาบาช่วยให้เราเอาชนะอุปสรรคที่มาจากสถานการณ์อันไม่คาดฝัน อย่างเช่น โรคโควิด-19 ได้ และยังนำพาธุรกิจของเราเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน” พศิน ลาทูรัส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ของนารายา กล่าว “การที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของนารายา ดำเนินงานอยู่บนอาลีบาบา คลาวด์ และได้ใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อรองรับการขายปลีกซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรา ช่วยให้เราประหยัดต้นทุน และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์จากระบบคลาวด์ยังทำให้เราทำงานได้อย่างราบรื่น เพราะมีความความยืดหยุ่นสูง และใช้งานง่าย”

“เราให้ความสำคัญกับความไว้เนื้อเชื่อใจของนารายา ที่มีต่อโซลูชันของ อาลีบาบา คลาวด์ และเรารู้ก็สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัลของนารายา โดยการนำโซลูชันเทคโนโลยีที่ผ่านการการันตีแล้วของเรา มาสนับสนุนนวัตกรรมทางธุรกิจของ นารายา ” Tyler Qiu ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยของ Alibaba Cloud Intelligence กล่าว “ด้วยประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จ บวกกับความสามารถด้านนวัตกรรมของอาลีบาบา คลาวด์ ที่ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซมาอย่างต่อเนื่อง เราหวังว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของนารายา และส่งมอบผลประโยชน์ต่าง ๆ ออกสู่มือลูกค้าทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก”

การทำงานร่วมกับอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยให้มั่นใจได้ว่า นารายาจะสามารถเข้าถึงข้อมูล และเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถส่งมอบโซลูชันที่เหมาะกับลูกค้า เพื่อยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้งของพวกเขา การสร้างความมั่นใจและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าในทุก ๆ กิจกรรมที่ได้ทำกับนารายา ถือเป็นจุดที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก

“นารายาเริ่มต้นจากธุรกิจขนาดเล็ก และเติบโตอย่างทวีคูณนับแต่นั้นมา ปัจจุบันเราไม่เพียงแต่เป็นแบรนด์ของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักในระดับสากลอีกด้วย” พศิน กล่าวเสริม “เราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ธุรกิจของเราไปสู่ความสำเร็จ การได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า นอกจากจะทำให้เราสามารถพัฒนาศักยภาพธุรกิจได้แล้ว ยังทำให้เราดำเนินงานได้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น”