อาลีบาบาขานรับเทรนด์เมตาเวิร์ส จัดเต็มเทคโนโลยี XR 3D และอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง ในช่วง 11.11 นี้
ทีโม่ อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงของ Tmall Luxury Pavilion
อาลีบาบา กรุ๊ป นำเสนอเทคโนโลยีที่จะพาคุณจมดิ่งไปในมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 นี้ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตของการค้าปลีกในเมตาเวิร์ส โดยทุกส่วนงานธุรกิจทั่วทั้งระบบนิเวศของอาลีบาบาได้นำเทคโนโลยีผสมผสานโลกความจริงกับโลกเสมือนจริง (Extended Realities: XR) เทคโนโลยีอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง และเทคโนโลยีสร้างวัตถุเสมือนจริงในโลกความจริง (AR) มาปฏิวัติรูปแบบการช้อปปิ้งออนไลน์ครั้งนี้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สถาบันวิจัย DAMO Academy ของอาลีบาบา ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มการออกใบอนุญาต Alifish เปิดตัวมาร์เก็ตเพลสที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี XR บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา คือ Tmall และ Taobao เพื่ออนุญาตให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านการสวมใส่อวาตาร์ปรับแต่งได้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สถาบันวิจัย DAMO Academy ของอาลีบาบา ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มการออกใบอนุญาต Alifish เปิดตัวมาร์เก็ตเพลสที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี XR บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา คือ Tmall และ Taobao เพื่ออนุญาตให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านการสวมใส่อวาตาร์ปรับแต่งได้
“เราเชื่อว่าเทคโนโลยี XR จะสามารถปฏิวัติเทรนด์การบริโภคออนไลน์ได้ด้วยการที่สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ต่างๆ” ป๋อ เล่ยเฟิง หัวหน้าห้องปฏิบัติการ XR ประจำ DAMO Academy ของอาลีบาบากล่าว
ในช่วง 11.11 ปีนี้ ผู้ประกอบการกว่า 70 แบรนด์กำลังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์เกือบ 700 รายการออกสู่มาร์เก็ตเพลสที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี XR ซึ่งดูเหมือนจะกลายเป็นถนนช้อปปิ้งที่เนืองแน่นไปด้วยเหล่าอวาตาร์ของผู้ใช้งาน
ผู้บริโภคสามารถเรียกดูร้านค้าเสมือนจริงจากแฟรนไชส์ตัวการ์ตูนมาสคอตที่มีชื่อเสียงระดับโลกกว่า 30 แบรนด์ อาทิ Hello Kitty อันเป็นเอกลักษณ์ของ Sanrio และตัว Minions ของฮอลลีวูด เมื่อผู้ใช้งานค้นพบไอเทมที่ชอบ อวาตาร์ของพวกเขาก็จะหยิบไอเทมชิ้นนั้น และวางลงในรถเข็นเสมือนจริง
Tmall Luxury Pavilion แพลตฟอร์มช้อปปิ้งสุดหรูของอาลีบาบา ก็ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของการผลักดันการค้าปลีกเสมือนจริง โดยทางแพลตฟอร์มได้สร้างอวาตาร์ของตนเองขึ้นมา นั่นคือ ทีโม่ (Timo) อินฟลูเอนเซอร์ชายหนุ่ม ผมสีขาว ผู้รับหน้าที่ดูแล และเป็นเจ้าภาพในมหกรรมช้อปปิ้งบนแพลตฟอร์ม ซึ่งรวมถึงการจัดแสดงของสะสมดิจิทัล 3 มิติจากแบรนด์หรูด้วย
การจำหน่ายสินค้าแบรนด์หรูผ่านเทคโนโลยี 3D และ AR นั้นมีแนวโน้มเติบโตเป็นเลขสองหลัก เมื่อเทียบปีต่อปี ตามข้อมูลของ Tmall Luxury Pavilion พบว่า ผู้บริโภคใช้เวลาเลือกชมผลิตภัณฑ์เหล่านี้นานขึ้นเป็นสองเท่า
จากทุ่งสะวันนาสู่โซฟา
การแปลงโฉมทางดิจิทัลอันน่าตื่นเต้น กำลังเกิดขึ้นใน Tmall โดยเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แอปแบบสแตนด์อโลนได้เปิดตัวเวอร์ชั่นที่รวมเอาความบันเทิงและการช้อปปิ้งแบบสามมิติเข้าไว้ด้วยกัน
แอปดังกล่าวได้พาผู้ใช้ไปสู่พื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งเนรมิตให้พวกเขาถูกห้อมล้อมด้วยทุ่งหญ้าแอฟริกันและภูมิทัศน์ป่าเขียวขจีของอเมริกาใต้ พวกเขาได้ยินเสียงนกร้องดังแว่วมาไกลๆ และชื่นชมแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ตกดิน ในขณะที่กำลังเรียกดูรายการแสดงผลไอเทมต่างๆแบบ 3 มิติ
จ้าว คุน หัวหน้าฝ่ายแอพพลิเคชั่นของ Tmall กล่าวว่า “อนาคตของการค้าปลีกแบบอีคอมเมิร์ซ คือ การผสมผสานการเล่นเกม การช้อปปิ้ง และการท่องโลกอินเตอร์เน็ต เข้าด้วยกัน”
ผู้บริโภคสามารถรับชมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แบบ 360 องศาและทดลองใช้สินค้าผ่านเทคโนโลยี AR ได้ นอกจากนี้ สำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เพียงแค่ผู้ใช้แตะบนโทรศัพท์ พวกเขาก็สามารถลองจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ลงบนรูปจำลองบ้านของตนเอง เพื่อดูว่าของตกแต่งเข้ากันหรือไม่
“ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เราจะสามารถค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ และสร้างศักยภาพที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนการเติบโตของผู้ใช้งานและภาคธุรกิจ สำหรับผู้ค้าของเรา” จ้าว กล่าว
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์