‘กรีนพีซ’ ยกให้ ‘อาลีบาบา’ เป็นที่หนึ่งของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในจีน ด้านการรับมือกับปัญหา Climate Change

อาลีบาบา กรุ๊ป เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามรายงานของ กรีนพีซ (Greenpeace) นักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ

อาลีบาบา แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองหางโจวแห่งนี้ได้ให้คำมั่นในเดือนธันวาคมว่า พวกเขาตั้งใจจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และจะลดการปล่อยคาร์บอนลง 1.5 กิกะตันทั่วทั้งอีโคซิสเท็มดิจิทัลภายในปี 2578

วิกฤตสภาพภูมิอากาศกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ พฤติกรรมของมนุษย์ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นประวัติการณ์โดยไม่มีวี่แววว่าจะลดลง รัฐบาลและนักลงทุนทั่วโลกจึงเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานและขั้นตอนการดำเนินการของบริษัทเพื่อลดมลภาวะเหล่านั้น

ท่ามกลางเสียงเรียกร้องเหล่านี้ กรีนพีซได้จัดลำดับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยพิจารณาจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขั้นตอนที่ดำเนินการไปแล้ว ระดับการเปิดเผยข้อมูล และขั้นตอนที่ดำเนินการเพื่อดูแลแพลตฟอร์มด้วยความรับผิดชอบและความยั่งยืน

อาลีบาบา เป็นบริษัทเดียวที่ได้กำหนดระยะเวลาที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับการดำเนินงานทั่วทั้งอีโคซิสเท็ม จากการเปิดเผยข้อมูลของกรีนพีซในรายงาน: สถานะปัจจุบันของบริษัทแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีน เกี่ยวกับการตอบสนองต่อสภาพอากาศ ประจำปี 2564

ทั้งนี้ เครือข่ายนักเคลื่อนไหวอิสระด้านสภาพอากาศจะใช้วิธีพิจารณาว่าพันธกิจของบริษัทครอบคลุมการดำเนินงานทุกภาคส่วน และบริษัทอีคอมเมิร์ซสนับสนุนระบบนิเวศที่ขยายทั้งต้นทางและปลายทางหรือไม่

ภายในปี 2573 อาลีบาบา วางแผนที่จะลดการปล่อยความเข้มข้นของคาร์บอน รวมถึงอัตราการปล่อยก๊าซลงครึ่งหนึ่งในกิจกรรมและห่วงโซ่อุปทานของ อาลีบาบา จาก 5.294 ล้านเมตริกตันของคาร์บอนไดออกไซด์ที่สะสมในปี 2563

“อันที่จริง มลพิษที่ถูกปล่อยจากห่วงโซ่คุณค่านั้นมากกว่ามลพิษที่ถูกปล่อยในการดำเนินงานขององค์กรเสียอีก” ต้าหมิ่น ตั้ง หัวหน้าโครงการในสำนักงานปักกิ่งของกรีนพีซเอเชียตะวันออกกล่าวในแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน

อาลีบาบาวางแผนที่จะลดความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573

รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

กรีนพีซตั้งข้อสังเกตว่า อาลีบาบา ให้ความสำคัญเรื่องการรับมือด้านสภาพอากาศในระดับกลุ่ม และได้ประกาศว่าจะใช้แผนการความเป็นกลางทางคาร์บอนที่ “ครอบคลุม” ทั่วทั้งอีโคซิสเต็มของ อาลีบาบา

นอกจากนี้ อาลีบาบา ยังเป็นผู้นำในการเสนอให้รับผิดชอบต่อความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากพาร์ตเนอร์ในอีโคซิสเต็มของตัวเอง เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปล่อยมลพิษ

“สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบทั่วไปในการลดการปล่อยมลพิษที่บริษัทต่าง ๆ ใช้ ซึ่งแน่นอนว่า บริษัทเหล่านั้นพยายามวัดการปล่อยมลพิษที่อยู่ใกล้ชิดกับห่วงโซ่คุณค่าของพวกเขา แต่ไม่ได้วัดการปล่อยมลพิษที่เกิดจากห่วงโซ่คุณค่าโดยตรง” ปีเตอร์ เลซี หัวหน้าฝ่ายบริการด้านความยั่งยืนระดับโลกและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความรับผิดชอบ จากบริษัทที่ปรึกษา Accenture กล่าว

กรีนพีซชี้ให้เห็นว่า การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของทั้งอุตสาหกรรมนั้นมีความไม่แน่นอน และยังมีส่วนที่ควรปรับปรุงทั้งในด้านสภาพภูมิอากาศและธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม (Environmental Governance)

แนวทางที่จะทำให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นคือการใช้แพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การขนส่งลอจิสติกส์ และซัพพลายเชน รายงานระบุว่า อาลีบาบา ได้ดำเนินการดังกล่าวอย่างชัดเจนแล้ว และยกย่อง ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค (Cainiao Network) ซึ่งเป็นบริษัทด้านลอจิสติกส์ของอาลีบาบาในด้านการริเริ่มใช้แพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การนำพลังงานสะอาดของ อาลีบาบา คลาวด์ มาใช้ และมาตรฐานการจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ อาลีบาบา

นอกจากนี้ กรีนพีซเล็งเห็นว่า อาลีบาบา คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance : ESG) เป็นสำคัญ และจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อความยั่งยืนในระดับคณะกรรมการ อีกทั้งยังรับผิดชอบในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ กำหนดเป้าหมาย และการจัดการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ESG

กรีนพีซกล่าวว่า การขนส่งถือเป็นช่องทางหลัก ๆ ของบริษัทอีคอมเมิร์ซในการปล่อยมลพิษ ซึ่งมีเพียง อาลีบาบา ที่มุ่งมั่นที่จะนำยานพาหนะที่ใช้งานทั้งหมดออก และเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะไฟฟ้าให้ได้ภายในปี 2573

“บริษัทอีคอมเมิร์ซได้เปลี่ยนชีวิตประจำวันของชาวจีนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบระบบใหม่เหล่านี้ บริษัทบางแห่งได้ตระหนักแล้วว่า การตอบสนองต่อสภาพอากาศคือการแสดงจิตสำนึกทางสังคม” ต้าหมิ่น ตั้ง กล่าวเสริม

Cainiao network ESG Greenpeace ความเป็นกลางทางคาร์บอน อาลีบาบา