พนักงานของอาลีบาบาทำงานการกุศล เฉลี่ย 6.3 ชั่วโมงต่อคน ในปีงบประมาณที่ผ่านมา

เหลียง อวี้ พนักงานของอาลีบาบาไปยังเขตชิงเจี้ยน มณฑลชานซี เพื่อช่วยพัฒนาการค้าอีคอมเมิร์ซของอาหารท้องถิ่น

อาลีบาบา ประกาศความคืบหน้าของงานการกุศลเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ซึ่งครอบคลุมหลากหลายกิจกรรม เช่น การฟื้นฟูพื้นที่ชนบท การบรรเทาภัยพิบัติ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การขจัดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล รวมไปถึงการส่งเสริมพนักงานและผู้ใช้ของอาลีบาบาให้เข้าร่วมกิจกรรมการกุศล

ในช่วงเดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565 พนักงานของอาลีบาบาอุทิศเวลาโดยเฉลี่ยกว่า 6.3 ชั่วโมงให้กับงานการกุศล เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ให้แก่ประชากรกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูชนบท และอื่น ๆ อีกมากมาย

กิจกรรมดังกล่าวเน้นการสนับสนุนการพัฒนาอีคอมเมิร์ซในพื้นที่ด้อยพัฒนาของจีน ทีมดีไซน์ของอาลีบาบาได้ผลักดันโครงการ “ออกแบบเพื่อชุมชน” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งโครงการมีจุดประสงค์ในการเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สินค้าอาหารพื้นเมืองแก่นักช้อปออนไลน์ ผ่านการปรับโฉมสินค้าและการสร้างแบรนด์ โดยภายในปี 2564 มีดีไซน์เนอร์มากกว่า 1,000 คนจากอาลีบาบาและอาสาสมัครคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมในโครงการนี้ เพื่อช่วยสนับสนุนเขตที่ด้อยพัฒนากว่า 20 แห่ง

ในปี 2564 อาลีบาบายังคงดำเนินโครงการหมุนเวียนงานแบบฟูลไทม์ ซึ่งโครงการนี้ริเริ่มในปี 2562 เมื่ออาลีบาบาส่งพนักงาน 26 คนไปยัง 21 พื้นที่ยากจนที่สุดในจีน เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาอีคอมเมิร์ซในท้องถิ่น ทำให้ในช่วงนั้น ยอดขายอีคอมเมิร์ซของอาหารพื้นเมืองที่ได้รับการช่วยเหลือจากพนักงานของอาลีบาบาเพิ่มสูงขึ้น 65% เมื่อเทียบเป็นรายปี ต้นทุนด้านลอจิสติกส์ในพื้นที่ชนบทบางแห่งลดลง เนื่องจากมีการจัดตั้งศูนย์กระจายพัสดุแห่งใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากตัวแทนของอาลีบาบาอีกด้วย

นอกจากนี้ อาลีบาบาก็ได้มีการปรับ 15 แอปพลิเคชันภายใต้อีโคซิสเท็มให้ผู้ที่จำเป็นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น เถาเป่า ทีมอลล์ เถาเป่า ดีลส์ Ele.me และ Youku ต่างก็ทยอยเปิดตัวโหมดที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภควัยซิลเวอร์เอจสามารถโอบรับกับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลได้อย่างเพลิดเพลิน ในขณะเดียวกัน เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา แอป DingTalk ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ทำงานร่วมกันทางดิจิทัลก็ได้ทำงานร่วมกับสมาคมผู้พิการทางการได้ยินแห่งประเทศจีน เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์มการทำงานที่ไร้อุปสรรค ซึ่งช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดโดย DingTalk ได้อย่างราบรื่น เช่น การประชุมทางวิดีโอ ไลฟ์สตรีม และบทเรียนออนไลน์ ด้วยความช่วยเหลือจากฟังก์ชันที่เปลี่ยนเสียงเป็นข้อความและฟังก์ชันคำบรรยายแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ไม่เพียงเท่านั้น การซื้อสินค้าที่ผู้ขายระบุว่าเป็น “Goods for Good” ในแอปเถาเป่าและทีมอลล์ จะถูกเปลี่ยนเป็นยอดเงินบริจาคเพื่อการกุศลที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งในปี 2564 มีผู้บริโภคมากกว่า 500 ล้านคนและผู้ค้า 2.2 ล้านรายที่เข้าร่วมการบริจาคภายใต้โครงการดังกล่าว ซึ่งทุกคนได้ช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่และสวัสดิการให้แก่คนกว่า 7 ล้านคน

โครงการการกุศล จัดว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่สำคัญของอาลีบาบา ในช่วงต้นปี 2554 ทางบริษัทได้เริ่มบริจาค 0.3% ของรายได้ต่อปี เพื่อเป็นเงินทุนให้กับโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นความตระหนักรู้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในปีเดียวกันนั้น บริษัทยังได้ก่อตั้งมูลนิธิอาลีบาบาที่ทำงานอุทิศให้กับกิจกรรมทางสังคมอีกด้วย

นอกจากนี้ ในปี 2558 อาลีบาบายังเสนอโครงการเพื่อส่งเสริมให้พนักงานของตัวเองทำงานเพื่อสังคมอย่างน้อยสามชั่วโมงทุกปี หลังจากนั้นสองปีต่อมา โครงการดังกล่าวขยับขยายจนกลายเป็นแพลตฟอร์ม Three-Hour Voluntary Service ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นในสังคมในการทำงานการกุศลจนเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรของพวกเขาในแต่ละปี ซึ่งพบว่า ในปี 2564 แพลตฟอร์มมีส่วนช่วยในงานการกุศลกว่า 600 ล้านครั้ง

“นอกจากอาลีบาบาจะมีส่วนร่วมในงานกิจกรรมเพื่อสังคมแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ค้าและผู้บริโภคในการมีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งแนวทางของเราคือการให้ผู้คนในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบาทำงานเพื่อผู้อื่นให้ได้มากที่สุด พร้อมช่วยกันสร้างสังคมที่น่าอยู่และมีแต่พลังบวกมากยิ่งขึ้น” ซุน ลี่จุน ประธานมูลนิธิอาลีบาบากล่าว

การค้าในชนบท การนับรวมทุกกลุ่มคน โครงการการกุศล