NT ผนึกอาลีบาบาคลาวด์ เดินหน้าบูรณาการโซลูชันดิจิทัล ขานรับการขยายตัวธุรกิจดิจิทัลของประเทศ
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และ อาลีบาบา คลาวด์ ได้ลงนามความร่วมมือว่าด้วยการเป็นพันธมิตรเพื่อสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจดิจิทัล โดยจะนำศักยภาพด้านการให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลของสองหน่วยงานมาพัฒนานวัตกรรมด้านการสื่อสารพร้อมยกระดับการให้บริการ และรองรับการเติบโตของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย
ภายใต้ความร่วมมือที่เกิดขึ้น อาลีบาบา คลาวด์ ได้นำบริการจากอาลีบาบาอย่าง Dingtalk Collaboration tool, eKYC (Electronic know your customer) และเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ (Apsara Stack) มาบูรณาการร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานที่ NT มี เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการบนแพลตฟอร์ม รวมถึงนำเสนอโซลูชันไฮบริดคลาวด์ที่มีความสามารถและยืดหยุ่นสูงให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ NT และ อาลีบาบา คลาวด์ ยังจะได้ร่วมกันผลักดันโซลูชันด้าน digitalization, AI, data intelligence technology ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของ NT ให้สามารถรองรับความต้องการด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่หลากหลาย เพื่อให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการจับมือพันธมิตรเพื่อร่วมพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีของประเทศให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งทาง NT ได้มีการผลักดันเทคโนโลยี DingTalk ซึ่งเป็นซุปเปอร์แอปที่ครอบคลุมฟีเจอร์ต่าง ๆ ในการทำงานในสำนักงานร่วมกันผ่านออนไลน์เข้าไปติดตั้งใน GDCC เพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐได้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จก้าวแรก ในการผลักดัน สู่การทำงานภายในองค์กรแบบ digitalization
นายสมยศ ธนพิรุณธร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า “การที่ NT ในฐานะที่เป็นหน่วยงานด้านดิจิทัลและสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศได้ร่วมกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกอย่าง อาลีบาบา คลาวด์ จะช่วยพัฒนาโซลูชันไฮบริดคลาวด์ของ NT ให้สามารถตอบโจทย์และรองรับความต้องการที่หลากหลายได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจากความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะส่งผลให้ NT สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีศักยภาพสูงทั้งในด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายของประเทศแล้ว ยังเป็นการสนองตอบนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและระดับโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ ให้สามารถรับมือกับโอกาสใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย”
คุณเซลินา หยวน รองประธาน อาลีบาบา กรุ๊ป และประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศ อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก อาลีบาบา คลาวด์ มุ่งมั่นลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเรื่อง และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับพันธมิตรเช่น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อย่างใกล้ชิด เพื่อนำเครื่องมือดิจิทัลที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วมาให้องค์กรธุรกิจในประเทศได้ใช้ประโยชน์ และสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจในยุคหลังการระบาดของโควิด-19 เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วของเราจะเอื้อประโยชน์ให้องค์กรต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย เช่น ธุรกิจค้าปลีก e-commerce fintech โลจิสติกส์ มีเดีย และ digital government สามารถเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้น และส่งต่อประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับลูกค้าและพันธมิตรของตนเพื่อให้สามารถสร้างข้อเสนอทางธุรกิจที่ดีขึ้น”
เมื่อต้นปีนี้ อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดตัว ดาต้าเซนเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมดิจิทัลของธุรกิจในไทย การเปิดตัวดังกล่าวยังสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลไทย (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อให้เกิดความมั่นคง ความเจริญรุ่งเรือง และความยั่งยืนแก่ประเทศอีกด้วย
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์