Nestlé เปิดศูนย์บริหารจัดการสินค้าอัจฉริยะแห่งแรกในจีน

ศูนย์บริหารจัดการสินค้าอัจฉริยะแบบ DTC แห่งแรกในจีน ของ เนสท์เล่ ได้ใช้หุ่นยนต์ AGV ที่ผลิตโดยไช่เหนียว

ศูนย์บริหารจัดการสินค้าอัจฉริยะแบบ DTC แห่งแรกในจีน ของ เนสท์เล่ ได้ใช้หุ่นยนต์ AGV ที่ผลิตโดยไช่เหนียว

กลุ่มบริษัทอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติสวิส เนสท์เล่ (Nestlé) ได้เปิดศูนย์บริหารจัดการสินค้าอัจฉริยะแบบ direct-to-consumer (DTC) แห่งแรกในจีน โดยร่วมมือกับ ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค (Cainiao Network) เครือข่ายผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของอาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) การเปิดศูนย์ครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมธุรกิจโซเชียลอีคอมเมิร์ซของแบรนด์ และส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภคชาวจีน ผ่านกลยุทธ์การจัดการสินค้าแบบ DTC ในประเทศจีน

ศูนย์บริหารจัดการสินค้าอัจฉริยะแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในเมืองซูโจวของจีน และใกล้กับคลังขนส่งสินค้า B2B หลักของ เนสท์เล่ทางภาคตะวันออกของจีน โดยไช่เหนียวได้เปิดเผยว่า นอกจากระบบโลจิสติกส์และเทคโนโลยีอัตโนมัติของบริษัทจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าแล้ว ยังลดการใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์ฯด้วย

“ด้วยความร่วมจากไช่เหนียว เราเชื่อว่าบริษัทจะสามารถสร้างซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองไว และยืดหยุ่นได้ด้วยการสั่งงานเพียงปลายนิ้วสัมผัสของมนุษย์” โทนี่ โดมินโก้ (Tony Domingo) รองประธานอาวุโสของเนสท์เล่ ฝ่ายงานซัพพลายเชนและการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำประเทศจีน เขตแผ่นดินใหญ่ กล่าวในระหว่างงานเปิดศูนย์ฯ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ศูนย์บริหารจัดการสินค้าอัจฉริยะ DTC ของเนสท์เล่ ตั้งอยู่ใกล้กับคลังขนส่งสินค้า B2B หลักของบริษัท ทางภาคตะวันออกของจีน ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำเนินงานโลจิสติกส์ทั้งแบบ 2B และ 2C

ศูนย์บริหารจัดการสินค้าอัจฉริยะ DTC ของเนสท์เล่ ตั้งอยู่ใกล้กับคลังขนส่งสินค้า B2B หลักของบริษัท ทางภาคตะวันออกของจีน ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำเนินงานโลจิสติกส์ทั้งแบบ 2B และ 2C

ไช่เหนียว ยังได้สร้างหุ่นยนต์ 40 AGV  ขึ้นมาใช้แทนที่การหยิบสินค้าแบบ manual ในโรงคัดแยก ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงาน จากโมเดล “คนสู่สินค้า” (people to goods) เป็นโมเดล “สินค้าสู่คน” (goods to people)

หุ่นยนต์จะหยิบสินค้าส่งไปยังสายการบรรจุหีบห่อ เพื่อลดระยะเวลาและปริมาณงานของพนักงาน 20 คนที่ทำงานในศูนย์บริหารจัดการสินค้า ขนาด 2,000 ตารางเมตร ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์ฯ ได้ถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับคลังสินค้าอื่น ๆ ของเนสท์เล่ที่มีแค่แรงงานมนุษย์เท่านั้น

“คำสั่งซื้อประมาณ 6,000 รายการจะถูกหยิบและบรรจุที่ศูนย์ฯแห่งนี้ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว การมีหุ่นยนต์ช่วยทำให้พนักงานของเราไม่ต้องคอยเดินไป-กลับเพื่อหยิบสินค้า โดยเฉลี่ยพวกเขาเดินน้อยลงถึง 20,000 ก้าวต่อวันเลยทีเดียว” โซ ยู๋ หัวหน้าฝ่าย eBusiness ซัพพลายเชนของเนสท์เล่ ประจำประเทศจีน เขตแผ่นดินใหญ่

 

 

ซัพพลายเชนอัจฉริยะจะช่วยให้เนสท์เล่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไช่เหนียวกล่าว

ข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดของรัฐบาลท้องถิ่นในจีน มีผลให้คลังสินค้าหลายแห่งทั่วประเทศต้องปิดตัวลงในปีนี้ แต่สำหรับเนสท์เล่ ต่อจากนี้ไป บริษัทจะส่งคำสั่งซื้อสินค้าไปบรรจุหีบห่อยังศูนย์ฯ DTC เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค

“มันทำให้เรามีความยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพ ซึ่งเราให้ความสำคัญมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนจากภายนอก” โซ ยู๋ กล่าวเสริม

ผู้บริหารจากเนสท์เล่และไช่เหนียว ร่วมเปิดศูนย์บริหารจัดการสินค้า

ผู้บริหารจากเนสท์เล่และไช่เหนียว ร่วมเปิดศูนย์บริหารจัดการสินค้า

นอกจากศูนย์บริหารจัดการสินค้าแห่งใหม่นี้จะสนับสนุนการขยายตัวของเนสท์เล่ในด้าน DTC แล้ว ยังช่วยยกระดับการบริหารจัดการสินค้าตามคำสั่งซื้อจากช่องทางอีคอมเมิร์ซทั้งหมดของเนสท์เล่ในจีน รวมถึงธุรกิจ Starbucks At Home แบรนด์ร้านกาแฟจากซีแอตเติลอีกด้วย

“ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเนสท์เล่ด้วยบริการซัพพลายเชนแบบองค์รวมและยั่งยืน” ว่าน หลิน ซีอีโอของไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค กล่าวในงานเปิดศูนย์ฯ

Cainiao Logistics Wan Lin โลจิสติกส์ ไช่เหนียว