ทีมอลล์ โกลบอลเผยดอกบัวคู่คว้าตำแหน่งแบรนด์ยอดนิยมในใจผู้บริโภคจีน

กำธน ลีเลิศพันธ์ กรรมการ บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท บัวสยามเทรดดิ้ง (เซี่ยงไฮ้) จำกัด (ประเทศจีน)

คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อของดอกบัวคู่ หนึ่งในแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน แต่คงมีไม่กี่คนที่รู้ว่าแบรนด์ดอกบัวคู่เริ่มบุกตลาดจีนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของอาลีบาบา ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่มีอายุน้อย ใส่ใจสุขภาพและรู้จักเลือกซื้อสินค้า

ดอกบัวคู่เริ่มขายสินค้าบนแพลตฟอร์มทีมอลล์ในปี 2559 และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดจีน ซึ่งรายได้เกินครึ่งหนึ่งของบริษัทฯ มาจากยอดขายในตลาดต่างประเทศ เมื่อปีที่ผ่านมา ยอดขายออนไลน์รวมจากมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์

ในขณะที่สินค้าขึ้นชื่อของดอกบัวคู่ในไทยคือ ยาสีฟันสมุนไพร แต่สำหรับตลาดจีน สินค้าขายดีกลับเป็นเครื่องดื่มรังนก “ผู้บริโภคจีนใส่ใจสุขภาพมากกว่าและเลือกบริโภคอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างต่ำ” กำธน ลีเลิศพันธ์ กรรมการ บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท บัวสยามเทรดดิ้ง (เซี่ยงไฮ้) จำกัด (ประเทศจีน) กล่าว ทำให้เครื่องดื่มรังนกของดอกบัวคู่ ออกสินค้าที่เป็นสูตรไม่มีน้ำตาล หวานน้อย ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติแทนน้ำตาล และมีสูตรน้ำตาลกรวดที่มีรสชาติหวานธรรมชาติจากน้ำตาลกรวด ทั้งสองสูตรจะใส่ปริมาณรังนก (น้ำหนักแห้ง) 2.8% และ 4.0%และยังมีสูตรอื่น ๆ อีกหลายสูตร ตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพได้เป็นอย่างดี ด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพและความคุ้มค่าของราคาที่โดดเด่นกว่าสินค้าภายในประเทศจีน ยิ่งทำให้แบรนด์ดอกบัวคู่กลายเป็นแบรนด์ในใจของชาวจีนจำนวนมาก

ช่วงงาน 11.11 เครื่องดื่มรังนกและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลายเป็นสินค้าขายดีจากประเทศไทยบนแพลตฟอร์มทีมอลล์ โกลบอล สินค้าของดอกบัวคู่ขายหมดเกือบหมดตั้งแต่ช่วงแรกของพรีเซล ทำให้ต้องเติมสต็อกสินค้าเพื่อให้ทันกับยอดสั่งซื้อที่เข้ามาไม่ขาดสาย

เครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูปสูตรไซลิทอลพลัส

ข้อมูลจากทีมอลล์ โกลบอลเผยว่า สินค้าเครื่องดื่มรังนกของดอกบัวคู่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจ โดยการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรังนกและสินค้าอาหารอื่นๆ ด้วยงบประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,000 ล้านบาท) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจีน

“ทีมอลล์ โกลบอลให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ ทั้งในเรื่องของการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราได้มาจากการดำเนินกิจการในแต่ละวัน” กำธนกล่าว

เทรนด์ของตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้แบรนด์ต้องศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้บริโภคในเชิงลึก เพื่อที่จะวางแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดอกบัวคู่ได้มีการรีแบรนด์ให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูทันสมัย มีสีสันและใส่ใจสุขภาพ ดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคอายุระหว่าง 18-30 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่รู้จักเลือกสินค้าและมีกำลังซื้อสูงขึ้น โดยข้อมูลผู้บริโภคจากทีมอลล์ช่วยให้แบรนด์สามารถคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากการที่ทีมอลล์ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค เพื่อสนับสนุนการวางแผนธุรกิจของดอกบัวคู่ อีโคซิสเท็มนี้ยังช่วยเหลือแบรนด์ด้านระบบปฏิบัติการ เช่น การย่นระยะเวลาสำหรับการขึ้นสินค้าใหม่ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคจีนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วงที่เกิดวิกฤติโควิดเมื่อต้นปี 2563 ดอกบัวคู่พาร์ทเนอร์กับไช่เหนียว เครือข่ายโลจิสติกส์ของอาลีบาบา เพื่อให้การขนส่ไปถึงมือผู้บริโภคตรงเวลา

ความสำเร็จของดอกบัวคู่ในตลาดจีนเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของอาลีบาบาในการนำแบรนด์ต่างประเทศคุณภาพดีไปสู่ยังผู้บริโภคจีน ดอกบัวคู่จะยังคงร่วมมือกับทีมอลล์ โกลบอลเพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ๆ และเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต

“เราสามารถคาดการณ์เทรนด์ของตลาดและเป็นผู้นำเทรนด์ หากเรามองหาโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ๆ และสามารถคว้าโอกาสนี้ได้ก่อนใคร” กำธนกล่าวปิดท้าย “เราต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและรู้จักปรับตัวอย่างทันท่วงทีเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้”

11.11 ดอกบัวคู่ ทีมอลล์โกลบอล แบรนด์ไทย