อาลีบาบาดันไลฟ์สตรีมช่วยร้านค้าดิจิทัลเพิ่มยอดขาย
เมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซไลฟ์สตรีมกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในช่วงทีโควิด-19 ระบาด เถาเป่า ไลฟ์จึงออกมาตรการช่วย แบรนด์ดันยอดขายผ่านการสื่อสารด้วยเทคโนโลยี
วิธีการล่าสุดที่แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมของอาลีบาบา กรุ๊ปนำเสนอคือ การจัดตั้งร้านค้าออนไลน์ของแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัว รวมไปถึง “ร้านค้าไลฟ์” เวอร์ชั่นอัพเกรด ที่ผู้บริโภคสามารถปรับแต่งตามความต้องการได้ แบรนด์ต่างๆ จะอัพสตรีมที่ต้องการแสดงให้ลูกค้าเห็นบนโฮมเพจ และยังสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ เพื่อรองรับลูกค้าแต่ละประเภทอีกด้วย เช่น การสร้างโปรแกรมที่จำกัดเฉพาะสมาชิกวีไอพีและแจกคูปองให้กับกลุ่มลูกค้าประจำ
“เทรนด์ที่เกิดขึ้นล้วนทำให้ไลฟ์สตรีมมีความหลากหลายมากขึ้น” หยู่ เฟิง รองประธานกรรมการ อาลีบาบา กรุ๊ป ผู้ดูแลคอนเทนต์บนเถาเป่า กล่าว “ผู้บริโภคจำนวนมากซื้อของออนไลน์จากการดูไลฟ์สตรีม ไลฟ์สตรีมกลายเป็นเทรนด์ที่ขาดไม่ได้และมีการแข่งขันสูงมากเช่นเดียวกัน”
ให้แบรนด์เล่าเรื่องผ่านไลฟ์สตรีม
เทรนด์ของแบรนด์ที่เริ่มไลฟ์สตรีมมีแนวโน้มเติบโตขึ้นตั้งแต่ปี 2562 หลายแบรนด์ใช้ไลฟ์สตรีมเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับผู้บริโภคชาวจีน อีกทั้งมีการเชิญเซเลบริตี้มาไลฟ์สตรีมร่วมกับผู้บริหาร เพื่อตอบคำถามผู้ชมและสร้างสีสันให้กับไลฟ์สตรีม
Dior และ Cartier ถ่ายทอดงานแสดงสินค้าและแฟชั่น โชว์ผ่าน “See now, buy now”
แบรนด์ที่มีแอคเคาท์ไลฟ์สตรีมกลายเป็นแอคเคาท์ยอดนิยม ที่มียอดขายติดอันดับบนเถาเป่า มีแบรนด์ 1,000 รายที่มียอดขายสูงถึง 100 ล้านหยวนหรือ 15.4 ล้านเหรียญ (ประมาณ 484 ล้านบาท) ข้อมูลในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดมีนาคม 2564
ก่อนมหกรรมช้อปปิ้งกลางปี 618 จะเริ่มขึ้น อาลีบาบาตั้งใจที่จะยกระดับเครื่องมือค้นหาและวิธีการจัดวางร้านค้าบนแพลตฟอร์มเพื่อให้ฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมของแบรนด์โดดเด่นมากขึ้น
ไลฟ์สตรีมกลายเป็นช่องทางยอดนิยมสำหรับแบรนด์ที่อยากจะโปรโมตให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น กว่า 90% ของแบรนด์ใหม่ๆ ที่เป็นสมาชิกบนทีมอลล์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ใช้ฟีเจอร์เถาเป่า ไลฟ์ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค
ท่ามกลางกระแสความนิยมของเถาเป่า ไลฟ์ แพลตฟอร์มได้ออกฟีเจอร์นิวรีเทลใหม่ๆ จำนวนมาก อาทิ พิธีกร AI การลองสินค้าเสมือนจริง แพลนตกแต่งบ้าน 3 มิติ และฟีเจอร์และมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าเอาใจสายแฟอีกด้วย
นอกจากนี้ เถาเป่า ไลฟ์ได้พาร์ทเนอร์กับสถาบันต้าโหมว ศูนย์วิจัยในเครืออาลีบาบา เพื่อพัฒนากล้องไลฟ์สตรีมคุณภาพสูงที่เหมาะกับการทำงานที่ต้องใช้ความเร็วรีลไทม์ เครื่องมือดังกล่าวจะทำให้การสื่อสารกับแฟนล้ำไปอีกขั้น
อัดแน่นฟีเจอร์สุดล้ำ
เถาเป่า ไลฟ์ เปิดตัวเมื่อปี 2559 และกลายเป็นเครื่องมือสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ วางกลยุทธ์ด้านการตลาดและยังเพิ่มยอดขายและยอดวิวให้กับร้านค้าบนแพลตฟอร์มอาลีบาบาอีกด้วย
ในช่วงวิกฤตโควิด เจ้าของร้านอาหารบนเอ้อเล่อหม่า ใช้เถาเป่า ไลฟ์เพื่อไลฟ์สตรีมวิธีทำอาหาเวลาที่ต้องอยู่บ้าน พร้อมเป็นช่องทางพูดคุยกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง บริษัททัวร์บนฟลิกกี้ใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ลูกค้าเที่ยวทิพย์ในช่วงล็อกดาวน์ได้อย่างสบายใจ
รายงานผลประกอบการที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เถาเป่า ไลฟ์มียอดขายออนไลน์รวมมากกว่า 4 แสนล้านหยวน ( ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท) ในปี 2563
สถิติตัวเลขล่าสุดจากเถาเป่าประจำปี 2563 ผู้ใช้ใช้เวลาถึง 500,000 ชั่วโมงต่อวันในการบริโภคคอนเทนต์ไลฟ์สตรีม ผู้ใช้ประจำที่เข้าชมไลฟ์สตรีม 6 ครั้งต่อวัน ซื้อสินค้าเฉลี่ยน 10 รายการต่อเดือน รวมเป็นยอดขายต่อเดือนประมาณ 1,500 หยวน (ประมาณ 7,200 บาท)
ในช่วงมหกรรมช้อปปิ้งประจำปี เถาเป่า ไลฟ์ตั้งเป้าที่จะช่วยร้านค้า 2,000 ร้านและพาร์ทเนอร์ 200 รายบนแพลตฟอร์ม ทำยอดขายต่อปีทะลุ 100 ล้านหยวน (ประมาณ 483 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมีการแจกจ่ายสินค้าบนเถาเป่าและทีมอลล์ให้กับไลฟ์สตรีมเมอร์ สินค้าเหล่านั้นจะมีการสกรีนก่อนส่งไป และยังมีเครื่องมือสนับสนุนการไลฟ์สำหรับพรีเซนเตอร์ที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือการถ่ายทำที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การสื่อสารกับแฟนๆ ไม่ติดขัด
ในปีนี้ เถาป่า ไลฟ์ วางแผนสร้างศูนย์กลางไลฟ์สตรีม 300 แห่ง เพื่อเป็นสถานที่ทำงานและสตูดิโอไลฟ์สตรีมที่มีมาตรฐานสำหรับอินฟลูเอนเซอร์และร้านค้า นอกจากนี้ แพลตฟอร์มมุ่งมั่นที่จะฝึกอบรมเกษตรกรและพิธีกรไลฟ์สตรีมจากชนบทใน 102 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งช่วยให้มีสมาชิกไลฟ์สตรีมเมอร์ใหม่ถึง 10,000 ราย
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกษตรกรและไลฟ์สตรีมเมอร์จากชนบทกว่า 100,000 ราย ถ่ายทอดไลฟ์สตรีม 2.52 ล้านครั้ง
“เมื่อปีที่ผ่านมา เราไม่เพียงพัฒนาทางเทคโนโลยี แต่เราสร้างความทรงจำที่ดีด้วยการพัฒนาสังคม” หยู่ เฟิง ผู้บริหารของอาลีบาบา กล่าวเพิ่มเติม
“ ในอนาคต อาลีบาบา ตั้งเป้าที่จะลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีและบริการที่ช่วยให้พาร์ทเนอร์ของเรามีธุรกิจที่เติบโตได้อย่างมั่นคง”
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์