ไช่เหนียวใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ขับเคลื่อนการดำเนินงานของคลังสินค้าทัณฑ์บน
ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค (Cainiao Network) ธุรกิจโลจิสติกส์ของ อาลีบาบา กรุ๊ป เริ่มใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งใน คลังสินค้าทัณฑ์บน ในจีนเพื่อดำเนินงานภายในคลัง
กว่า 5,000 แบรนด์บนแพลตฟอร์มข้ามพรมแดนของอาลีบาบาส่งสินค้าเข้าประเทศจีนผ่านคลังสินค้าทัณฑ์บนของไช่เหนียว ซึ่งแบรนด์เหล่านี้มาจากตลาดที่หลากหลายกว่า 90 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คลังสินค้าทั้งสองแห่งตั้งอยู่ในเมืองหางโจวและเมืองหนิงปัว ณ มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่ใช้พลังงานหมุนเวียนในเมืองท่าเป็นแห่งแรกในประเทศจีน สาเหตุหลัก ๆ เป็นเพราะธุรกิจโลจิสติกส์คือปัจจัยสำคัญในการช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมระดับโลก
ซุนเป้ยเป้ย ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายซัพพลายเชนทั่วโลกของไช่เหนียว กล่าวว่า “การเปิดตัวโซนคลังสินค้าแห่งแรกของไช่เหนียวที่ดำเนินการด้วยระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ (PV) นั้น เป็นเพียงก้าวแรกของมาตรการด้านความยั่งยืนที่เราตั้งใจไว้”
จาก รายงาน ของ Energy Foundation ในปี 2019 บริษัทอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ในประเทศจีนมีส่วนในการปล่อยคาร์บอน 53.3 ล้านตัน ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณออฟเซ็ตที่ต้องใช้ต้นไม้ 10 พันล้านต้นทดแทนในหนึ่งปี โดยปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากโลจิสติกส์คิดเป็น 29% และจากคลังสินค้าอีก 4%
การดำเนินงานที่ช่วยประหยัดไฟ
ไช่เหนียวติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์บนหลังคาของคลังสินค้า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งสามารถเก็บพลังงานได้ 7.862 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังการผลิตต่อปีมากกว่า 8 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ถือว่าเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการจ่ายไฟให้ครัวเรือน 3,000 กว่าหลัง
ที่คลังสินค้าทัณฑ์บนในหางโจว พลังงานไฟฟ้าจะถูกนำไปใช้สำหรับระบบปฏิบัติการที่ประหยัดไฟ เช่น ไฟที่ปรับความสว่างได้เองและสายพานลำเลียงแบบประหยัดไฟ ซึ่งจะปรับการใช้พลังงานโดยอัตโนมัติตามปริมาณพัสดุ
ส่วนไฟฟ้าที่ผลิตโดยระบบพลังงานแสงอาทิตย์นั้นเพียงพอที่จะจ่ายไฟให้กับการดำเนินงานของคลังสินค้าไช่เหนียว และไฟฟ้าส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเส้นทางสำหรับการใช้งานอื่น ๆ
การกำจัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
ไช่เหนียวกล่าวว่า พลังงานแสงอาทิตย์สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 5,535 ตัน เทียบเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ต้นไม้ 700,000 ต้นสามารถดูดซับได้ต่อปี
“เราตั้งใจที่จะสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสำหรับผู้ค้าและแบรนด์ของเราทั่วโลก เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปด้วยกัน” ซุนกล่าว
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของไช่เหนียวที่จะสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ทางบริษัทได้ร่วมมือกับแบรนด์ต่างชาติอย่างเนสท์เล่ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ การจัดสรรสินค้าคงคลังอัจฉริยะ และการจัดการแพ็กเกจจิ้งอัจฉริยะ
ไช่เหนียวและพันธมิตรคาดว่า ภายในปี 2566 จะติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้าของคลังสินค้าไช่เหนียว ขยายพื้นที่รวมเป็น 500,000 ตารางเมตร
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์