เทศกาลเถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล กลับมาอีกครั้งในธีมตามล่าขุมทรัพย์สุดยิ่งใหญ่ เพื่อสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการ
เทศกาลเถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล กลับมาอีกครั้งในธีมตามล่าขุมทรัพย์สุดยิ่งใหญ่ เพื่อสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการ
อาลีบาบา กรุ๊ป พร้อมเปิดตัวเทศกาลเถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล (Taobao Maker Festival หรือ TMF) ปีที่ 6 ที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้
เทศกาลเถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล ในปีนี้ มีผู้ขายจากเถาเป่ามากกว่า 100 รายจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์มาร่วมออกร้าน ในปีที่แล้วเทศกาลนี้จัดงานบางส่วนแบบออนไลน์เนื่องจากเกิดโรคระบาด แต่ในปีนี้งานทั้งหมดจะจัดขึ้นบนพื้นที่จริงในระหว่างวันที่ 17-25 กรกฎาคม ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแห่งชาติ ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเอง
เทศกาลในปีนี้จัดภายใต้ธีม “Lost Treasure” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในจีนที่มีการจัดงานพร้อมเกมตามล่าสมบัติแบบเต็มพื้นที่ โดยจะมีคำใบ้และเบาะแสของขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ในทุกโซนของเทศกาลบนพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร
คริส ต่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “เราจัดงานเถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล ขึ้นทุกปีเพื่อส่งเสริมนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และผู้ขายบนแพลตฟอร์มของเราที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีความมุ่งมั่นแบบผู้ประกอบการ ในปีนี้มีความพิเศษคือเราได้นำเกมแนวแฟนตาซีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากราชวงศ์ถัง เข้ามาผสมผสานเพื่อสร้างประสบการณ์ภายในงานให้ผู้เข้าชมได้ร่วมสนุกในการตามหาขุมทรัพย์ ซึ่งจะนำไปยังร้านค้าต่างๆ ของผู้ขายบนเถาเป่าที่คัดสรรมาแล้วว่ามีนวัตกรรมที่แปลกใหม่และโดดเด่นมากที่สุด”
มีนวัตกรรมให้เลือกชมมากขึ้น
เถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล มีจุดประสงค์ที่จะนำเสนอสินค้าที่เป็นของดีแต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะสินค้าใหม่และสินค้าที่เจาะตลาดนิช (niche) หรือตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของนักช้อปชาวจีนที่เป็นคนรุ่นใหม่ สินค้าเด่นภายในงานล้วนสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความเป็นผู้นำเทรนด์ของเถาเป่า โดยมีตั้งแต่ผ้าพันคอดีไซน์ไม่เหมือนใคร และสินค้าแฟชั่นที่ก้าวนำเทรนด์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมจีน และสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้เทคโนโลยีโลกอนาคต
นอกจากการออกร้านแล้ว ผู้เข้าชมงานยังจะได้เพลิดเพลินกับงานศิลปะของศิลปินจีนร่วมสมัย 8 ท่าน ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการนำวัฒนธรรมและเทคโนโลยีมาผสมผสานออกมาในแนวอาวอง-การ์ด หรือล้ำยุค เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์นั้นไม่มีขีดจำกัด โดยผลงานมีตั้งแต่ภาพวิวทิวทัศน์จีนแบบดั้งเดิมที่วาดโดยใช้เทคโนโลยีเอไอ ไปจนถึงประติมากรรมที่ปั้นโดยนำคลื่นเสียงจากหลายพันปีก่อนมาใช้
สนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น
เถาเป่าเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมานานแล้วจากนักสร้างสรรค์และผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่ในประเทศจีน ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของผู้ขายบนเถาเป่าคือ 26 ปี นอกจากนี้ในช่วงเดือนเมษายน 2563 – มีนาคม 2564 เถาเป่ายังมีจำนวนผู้ขายประจำสูงที่สุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2560 อีกด้วย
ในปีที่แล้วเถาเป่าได้เริ่มปรับเปลี่ยนระบบการให้คะแนนร้านค้าของเถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล ไปใช้เป็นแบบเรตติ้ง เพื่อให้สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์โดดเด่นได้ตลอดทั้งปี โดยหลังจากนำมาใช้แล้ว พบว่าระบบเรตติ้งสามารถช่วยเพิ่มการรับรู้ให้กับสินค้าที่เจาะตลาดนิชได้จริง โดยร้านค้าที่ได้รับเรตติ้งดีแต่สินค้ายังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ระบบจะนำมาขึ้นแสดงในช่อง “Good Find” หรือสินค้าแนะนำ ที่จะคัดเลือกมาแสดงตามความชอบของลูกค้าแต่ละคน โดยนับจนถึงเดือนมิถุนายน 2564 พบว่าผู้ขายที่ได้รับเรตติ้งดีมีการเติบโตของยอดขายที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ขายโดยรวมในระบบค้าปลีกออนไลน์ในจีน
ร้านค้าที่ขายสินค้านิชที่ประสบความสำเร็จยังมีการนำเครื่องมือต่างๆ ของเถาเป่ามาใช้เพื่อเพิ่มการรับรู้และสร้างยอดขายให้ธุรกิจ ตัวอย่างร้านค้าเหล่านี้ เช่น ร้านเสื้อผ้าแนววินเทจ ร้านเสื้อผ้าบุรุษมัดย้อม ร้านรูปปั้นแมลงทำจากทองเหลือง ร้านขายหมึกวาดภาพ และร้านขายชุดสัตว์เลี้ยงแบบสั่งตัด เป็นต้น จากข้อมูลของเถาเป่าพบว่าร้านค้านิชที่ได้รับความนิยมเหล่านี้มีการโพสต์คอนเทนต์บน Guangguang (กวงกวง) โดยเฉลี่ยบ่อยกว่าร้านค้าโดยรวมถึง 33 เท่า กวงกวงเป็นช่องบนเถาเป่าที่เปิดให้ผู้ขายสามารถโพสต์วิดีโอสั้นเพื่อโปรโมทสินค้าได้ นอกจากนี้ยังพบว่าร้านค้าเหล่านี้มีการไลฟ์สตรีมหรือโพสต์โปรโมทสินค้าในช่องของตน บ่อยว่าผู้ขายทั่วไป 12 เท่าด้วย
เถาเป่ามุ่งมั่นช่วยให้ผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่เชื่อมต่อกับผู้ซื้อประจำในมาร์เก็ตเพลสของอาลีบาบาที่มีอยู่มากกว่า 925 ล้านคนทั่วประเทศจีน นอกจากการจัดงานอย่างเถาเป่า เมกเกอร์ เฟสติวัล เพื่อช่วยโปรโมทผู้ขายให้เป็นที่รู้จักแล้ว นับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เถาเป่ายังเริ่มนำมาตรการใหม่ๆ มาใช้เพื่อช่วยลดกำแพงในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม และช่วยลดขั้นตอนการเปิดร้าน รวมถึงลดการเก็บค่าธรรมเนียมดำเนินการลง นอกจากนี้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยังเปิดตัวโครงการ “Merchant Growth System” หรือระบบสร้างการเติบโตให้ผู้ขาย เพื่อช่วยปูพื้นฐานผู้ขายให้จับกลยุทธ์สร้างการเติบโตได้อย่างโปร่งใสมากขึ้น รวมถึงเข้าใจแนวทางเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายบนเถาเป่า
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์