อาลีบาบา บรรลุเป้าหมายเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วงเทศกาลช้อปปิ้งกลางปี 6.18
อาลีบาบา เปิดตัวนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งกลางปี 6.18 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยรณรงค์บนแพลตฟอร์มค้าปลีกทั้งเถาเป่าและทีมอลล์อย่างกว้างขวาง ทำให้เป็นครั้งแรกที่อาลีบาบาสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่อคำสั่งซื้อ 1 ออร์เดอร์ในช่วงงาน 6.18 ได้ถึง 18% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการปรับอัลกอริธึ่มใหม่ อย่างการใช้ฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่อาลีบาบานำมาใช้เพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์มค้าปลีกที่ได้รับความนิยมของบริษัท เช่น การค้นหาด้วยภาพ และการแนะนำสินค้าสำหรับแต่ละบุคคล การอัปเกรดอัลกอริธึ่มดังกล่าวทำงานบนพื้นฐานของเทคโนโลยีเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่อาลีบาบาพัฒนาขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ดังเดิม แต่ลดการใช้ทรัพยากรประมวลผลลงอย่างเห็นได้ชัด
การใช้พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล เช่น พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการใช้โลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการใช้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ และการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาของอาคาร ล้วนมีส่วนช่วยลดการใช้พลังงานลง
หลี่ เชง ประธานฝ่ายเทคโนโลยี อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “นอกจากเราจะใช้พลังงานหมุนเวียนในอุปกรณ์คลาวด์แล้ว เรายังลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของบริษัทลง นอกจากนี้เพื่อให้การดำเนินกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรายังทำงานทั้งในส่วนหลังบ้านคือโครงสร้างพื้นฐาน และหน้าบ้านคือแอปพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้เทศกาลช้อปปิ้ง 6.18 เป็นงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ และช่วยให้ธุรกิจของเรามุ่งสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ให้ได้ในเร็วๆ นี้”
“ในฐานะองค์กรและผู้นำด้านเทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เราไม่เพียงมุ่งสร้างความก้าวหน้าทางธุรกิจ แต่ยังสร้างประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการรักษาความยั่งยืนของระบบนิเวศ ในอนาคต เราอยากแบ่งปันเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเหล่านี้ให้กับลูกค้าและพันธมิตร เพื่อให้มีส่วนร่วมสร้างอนาคตที่ดีของสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน”
ศูนย์ข้อมูลของอาลีบาบา คลาวด์ ในเทศมณฑลฉางเป่ย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นศูนย์ข้อมูลสำคัญที่สนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา ได้ทำสถิติลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 8,000 ตันในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งกลางปี 6.18 อันเป็นผลมาจากการใช้พลังงานลม โดยนับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา อาลีบาบาได้เข้าร่วมโครงการขายพลังงานลมในเทศมณฑลฉางเป่ย ซึ่งมีการสนับสนุนธุรกิจที่อยากทำสัญญาขายไฟฟ้าให้กับบริษัทพลังงานลมในพื้นที่
นับจนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อาลีบาบาขายไฟฟ้าจากพลังงานลมผ่านโครงการนี้แล้ว 450 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกือบ 400,000 ตัน นอกจากนี้ นับจนถึงเดือนเมษายนปีนี้ ศูนย์ข้อมูลอีกแห่งหนึ่งของอาลีบาบา คลาวด์ ในเขตมองโกเลียในยังเพิ่มการใช้พลังงานจากลมและพลังงานแสงอาทิตย์ขึ้น 45% ของปริมาณไฟฟ้าทั้งหมด เพิ่มขึ้น 38% จากปีที่ผ่านมา
ส่วนไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นธุรกิจด้านโลจิสติกส์ของอาลีบาบา เปิดเผยว่าสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งกลางปี 6.18 ได้มากกว่า 13,000 ตัน ซึ่งเกิดจากการทำศูนย์กระจายสินค้าให้ลดการใช้พลังงาน การใช้อัลกอริธึ่มบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ และการติดตั้งโซล่าร์เซลล์บนหลังคาของอาคาร
ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งกลางปี 6.18 Ele.me ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ในท้องที่ของอาลีบาบา มีการส่งอาหารที่ลดช้อนส้อมพลาสติกทั้งหมด 20 ล้านออร์เดอร์ เทียบเท่ากับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนราว 400 ตัน หรือเท่ากับการปลูกต้นฮาโลไซลอน 22,000 ต้น
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์