TIANA แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่ถูกก่อตั้งบนโลกออนไลน์ ภายใต้ปรัชญาการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมวิสัยทัศน์ที่ยั่งยืน และการส่งเสริมบทบาทของผู้หญิง
TIANA แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่ถูกก่อตั้งบนโลกออนไลน์ ภายใต้ปรัชญาการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมวิสัยทัศน์ที่ยั่งยืน และการส่งเสริมบทบาทของผู้หญิง
การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบให้หลายธุรกิจต้องปิดตัวลงเนื่องจากไม่สามารถแบกรับความท้าทายต่าง ๆ ได้ เช่น จำนวนลูกค้าที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ยังมีบางธุรกิจที่ก่อตั้งขึ้นท่ามกลางวิกฤตินี้ โดยเน้นจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ และอาศัยข้อมูลเชิงลึกเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ในการสร้างแบรนด์ การเข้าถึงผู้บริโภค และการวางแผนธุรกิจ
หนึ่งในนั้นคือ TIANA ดาวรุ่งดวงใหม่ที่กำลังมาแรงในวงการแฟชั่นและอีคอมเมิร์ซไทย TIANA ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 โดยคุณเต็มฟ้า กฤษณายุธ หนึ่งในศิษย์เก่ารุ่นล่าสุดจากโครงการ Alibaba Netpreneur Thailand 2022 (ANT 2022) ด้วยเวลาเพียง 2 ปีที่แบรนด์ของเธอกลายเป็นผู้นำในวงการแฟชั่นอีคอมเมิร์ซ เต็มฟ้าไม่ได้มีจุดมุ่งหมายสูงสุดอยู่แค่การสร้างผลกำไรเท่านั้น แต่เธอยังมุ่งหวังที่จะส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงและแนวคิดเรื่องความยั่งยืนผ่านธุรกิจของเธอด้วย ผู้ประกอบการหญิงรุ่นใหม่ไฟแรงคนนี้จะมาเล่าให้เราฟังถึงแนวคิดและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เธอได้รับจากการเข้าอบรมในโครงการ ANT 2022 รวมถึงแบ่งปันวิสัยทัศน์บริษัทของเธอด้วย
Q: ช่วยเล่าให้เราฟังถึงความเป็นมาของ TIANA
A: แบรนด์ TIANA เน้นจำหน่ายเสื้อผ้าผู้หญิงผ่านช่องทางออนไลน์ เราอยากเห็นผู้หญิงทุกคนมั่นใจในเสื้อผ้าที่พวกเธอสวมใส่ เราเชื่อว่าเสื้อผ้าที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงต้องประกอบไปด้วยคุณภาพ การดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งาน ที่สำคัญเราอยากเห็นผู้หญิงทุกคนสามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุดในราคาที่พวกเธอเอื้อมถึง ซึ่งการเปิดหน้าร้านอีคอมเมิร์ซก็ทำให้เป้าหมายของเราเป็นจริงได้
บริษัทเราก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 ปัจจุบันเราแบ่งออกเป็น 2 แบรนด์หลัก ๆ คือ TIANA Brand Official เน้นกลุ่มผู้หญิงวัย 25-30 ที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ และต้องการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ดีและคงทน ในราคาสมเหตุสมผล ส่วนแบรนด์ที่สอง คือ TIA by TIANA ตัวนี้จะเด็กลงมาหน่อย เน้นกลุ่มสาว ๆ วัย 15-30 ปี โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z หรือ Millennials สินค้าหลักของแบรนด์จะเน้นเสื้อผ้าที่จำเป็นต้องใส่ประจำ เช่น สูท เสื้อเชิ้ต และกางเกงใส่ทำงาน ที่ลูกค้าสามารถ Mix and Match และสวมใส่ได้หลายโอกาส
TIANA จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น และมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายมาจากแพลตฟอร์มลาซาด้า การเปิดร้านบนลาซาด้าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยแบรนด์ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นได้ทั้งช่องทางการจัดจำหน่ายและช่องทางการตลาด นอกจากนี้ สินค้าของเราได้ติด 1 ใน 10 สินค้าขายดีบนลาซาด้าอีกด้วย
Q: TIANA ก่อตั้งขึ้นในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ อยากให้ช่วยแชร์ประสบการณ์ว่าคุณนำพาธุรกิจให้อยู่รอดและประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้อย่างไร
A: เป็นโชคดีของแบรนด์เราจริง ๆ ที่เน้นจำหน่ายเสื้อผ้าทางออนไลน์มาตั้งแต่แรก ทำให้การแพร่ระบาดมีผลกระทบต่อแบรนด์เราน้อยมาก ปัญหาที่เราเจอจะเป็นด้านการผลิตมากกว่า เพราะพนักงานทั้งจากฝั่งซัพพลายเออร์ และจากของเราเองติดโควิด-19 จึงทำงานได้ช้าลง
อีกหนึ่งความท้าทายคือ เทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนไปในช่วง 6 เดือนแรกของการแพร่ระบาด เทรนด์ work from home ทำให้ลูกค้าซื้อชุดทำงานน้อยลง และหันมาซื้อชุดไม่เป็นทางการมากขึ้น เราจึงใช้โอกาสนี้สร้างแบรนด์ใหม่ นั่นคือ TIA by TIANA เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เน้นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ๆ เช่น เสื้อเชิ้ตหลวม ๆ สูทและกางเกง oversize กลยุทธ์นี้ทำให้เราสามารถรักษาฐานลูกค้าและความนิยมต่อแบรนด์ไว้ได้ หากประเมินภาพรวม ต้องยอมรับว่าอีคอมเมิร์ซเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของเราในช่วงการระบาดใหญ่ครั้งนี้
การเปิดร้านบนลาซาด้าช่วยทำให้ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่หลายธุรกิจที่ไม่ได้มีหน้าร้านออนไลน์ต้องเผชิญความยากลำบาก นอกจากนี้ เรายังได้รับความช่วยเหลือจากลาซาด้าอย่างต่อเนื่อง ด้วย “เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ” หรือ Business Advisor ซึ่งมีแดชบอร์ดที่สรุปข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่ยอดขายไปจนถึงผลลัพธ์ต่าง ๆ จากการจัดโปรโมชั่น ยอดผู้เข้าชมร้านค้า หรือแม้แต่ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ ของผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์ ไว้ในหน้าจอเดียว ดิฉันยังสามารถจัดการสต็อกสินค้าในแต่ละแคมเปญได้ อีกทั้งยังดูคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าใช้ในการค้นหาสินค้า ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย โดยสรุป ต้องยอมรับว่าอีคอมเมิร์ซได้กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจตลอดช่วงการระบาดใหญ่ค่ะ
Q: คุณไม่ใช่แบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาจับตลาดอีคอมเมิร์ซ แต่ทำไมคุณถึงยังตัดสินใจเข้ามาเรียนรู้การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในโครงการ ANT 2022
A: หนึ่งในคุณค่าสำคัญที่บริษัทเรายึดถือคือ ‘การเรียนรู้ตลอดชีวิต’ ดังนั้น ถึงจะมีการจำหน่ายบนลาซาด้ามาไม่ต่ำกว่า 2 ปี แต่เราก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง และศึกษาเทรนด์หรือตลาดใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะในโลกอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูง เราจำเป็นต้องอัพเดทเทรนด์ใหม่ ๆ รอบตัวเราตลอดเวลา เพื่อให้เรา ในฐานะเจ้าของธุรกิจ มีแนวคิดสอดคล้องไปกับความต้องการของผู้บริโภค
ดิฉันรู้สึกตัดสินใจไม่ผิดที่มาเข้าร่วม ANT 2022 เมื่อช่วงต้นปี ขอเล่าถึงความเป็นมาของโครงการสักเล็กน้อย ANT 2022 เป็นโครงการที่เฟ้นหาผู้ประกอบการจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีผลงานและการเติบโตที่โดดเด่น มีศักยภาพในการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลได้ ซึ่งตลอดการอบรมมีผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีประสบการณ์การทำธุรกิจกับอาลีบาบา กรุ๊ป มาให้ความรู้ตลอด 4 สัปดาห์ของการเทรนออนไลน์
ดิฉันมีเพื่อน ๆ ผู้ประกอบการไทยที่เข้าอบรมอีกกว่า 20 คน จึงเป็นเหมือน Life-changing experience เลยก็ว่าได้ เพราะดิฉันได้ตระหนักถึงคุณค่าสำคัญ และเป้าหมายระยะยาวของแบรนด์ชัดเจนยิ่งขึ้น
Q: ช่วยแชร์ข้อคิดสำคัญจากโครงการ ANT 2022 และคุณมีแนวทางในการนำข้อคิดเหล่านี้ไปปรับใช้ในธุรกิจของคุณอย่างไร
A: ประสบการณ์แรกที่ดิฉันจะไม่มีวันลืมเลย คือการได้เรียนรู้พันธกิจ วิสัยทัศน์ และคุณค่าการทำธุรกิจ จากอาลีบาบา การอบรมนี้ทำให้ดิฉันตระหนักได้ว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจ หมายถึงความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับมากมาย ไม่ใช่แค่ต่อตนเอง แต่เป็นความรับผิดชอบต่อลูกค้า พนักงาน สิ่งแวดล้อม และประเทศ
ประการที่สอง คือ วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการวางกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาว หาก SMEs กล้าคิดใหญ่ ฝันไกล และเชื่อในกลยุทธ์และทัศนคติของทีมงาน เราจะเติบโตได้อย่างไม่สิ้นสุด หลังจากจบการอบรม ดิฉันก็ปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจระยะสั้นและระยะยาวทันที และค้นหาว่าแบรนด์เรามีจุดแข็งอะไร เพื่อใช้ช่องทางออนไลน์เผยแพร่ให้ผู้บริโภคเห็นจุดแข็งของเราตรงนั้น
ประการสุดท้าย ประสบการณ์จากการอบรมครั้งนี้ได้เปิดวิสัยทัศน์ของดิฉันให้ขยายกว้างกว่าแค่การสร้างผลกำไรสูงสุดในระยะสั้น หากแต่เป็นการส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนแก่ลูกค้า และทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น ดังนั้น ในฐานะที่เราจำหน่ายเสื้อผ้าผู้หญิง เป้าหมายระยะ 3-5 ปีจากนี้ของเราคือ การช่วยผลักดันบทบาทของผู้หญิง (Woman Empowerment) และสร้างความยั่งยืนแก่โลกใบนี้
Q: คุณกล่าวว่าความยั่งยืน (Sustainability) เป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ของแบรนด์ TIANA อยากให้คุณช่วยอธิบายแผนกลยุทธ์ในการโปรโมทแนวคิดนี้
A: แน่นอน ความยั่งยืน คือหนึ่งในปัจจัยหลักที่เราให้ความสำคัญมาก ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ เราได้พยายามใส่แนวคิดเรื่องความยั่งยืนลงไปในทุกด้านที่เราเห็นโอกาส ดังนี้:
(1) การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ ทีมงานทำการบ้านอย่างหนักในการคัดเลือกวัสดุต่าง ๆ เช่น ผ้าคอตตอนออร์แกนิก ผ้าลินินออร์แกนิก และผ้าใยสังเคราะห์ออร์แกนิก โดยเราพยายามซื้อวัสดุจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น และวางกลยุทธ์ด้านราคาที่เหมาะสม ต้องยอมรับว่าเป็นจุดที่ท้าทายมาก ๆ แต่ก็ช่วยเติมเต็มวิสัยทัศน์ในระยะยาวของเราจริง ๆ และช่วยสนับสนุนเหล่าซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นอีกด้วย และเรามีแพลนจะปล่อย sustainable fashion collection ในช่วงต้นปี 2023 ที่กำลังจะถึงนี้
(2) กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: เราเลือกทำธุรกิจกับซัพพลายเออร์ที่ดำเนินกิจการอยู่บนหลักความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเท่านั้น เราทีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนของซัพพลายเออร์ และสามารถมั่นใจได้ว่าทุกเจ้าไม่มีกระบวนการที่ก่อให้เกิดการใช้น้ำมากเกินความจำเป็น หรือก่อให้เกิด carbon emission
(3) จาก Fast-Fashion สู่ Slow-Fashion: สินค้าขายดีของเราส่วนใหญ่ เช่น สูท และกางเกงขายาว ล้วนมีอายุการใช้งานยาวหลายปี เราเน้นจำหน่ายเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้หลายโอกาส และไม่เชย ซึ่งจริง ๆ แล้วผู้หญิงจำเป็นต้องมีชุดเก่งไว้ใส่ประจำแค่ประมาณ 10 ชิ้นในตู้เท่านั้น
Q: คุณวาดภาพธุรกิจของคุณในอีก 5-10 ปีข้างหน้าไว้อย่างไร
A: สำหรับเป้าหมายในระยะ 10 ปี ดิฉันอยากเห็น TIANA เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้หญิงทุกคนทั่วโลก เราต้องการขยายตลาดไปสู่ระดับโลก ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ โดยเริ่มจาก ASEAN ก่อน ใน 3-5 ปีนี้ และเราก็กำลังวางแผนเพิ่มสมาชิกในทีมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความหลากหลาย และไอเดียใหม่ ๆ ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะผลักดันบทบาทของผู้หญิงผ่านแฟชั่น เพราะเราเชื่อว่า ดีไซน์ของเสื้อผ้า ฟังก์ชันการใช้งาน ความสบายในการสวมใส่ และราคาที่เข้าถึงได้ คือองค์ประกอบที่หลอมรวมกัน เพื่อผลักดันศักยภาพ และเผยให้เห็นตัวตนที่มีพลังของผู้หญิงทุกคน เราเชื่อว่าเสื้อผ้าของเราจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงได้ทุกครั้งที่พวกเธอสวมใส่ และมีส่วนช่วยให้พวกเธอคว้าโอกาส ตลอดจนประสบความสำเร็จในสายอาชีพได้
Q: ข้อคิดที่อยากฝากถึงเพื่อนๆ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่
A: อยากฝากทริคถึงเพื่อน ๆ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ 3 ข้อ
(1) อย่าหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ: เราสังเกตเห็นว่าคนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีทัศนคติคล้ายกันเรื่องการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โลกนี้มีไอเดีย และแนวคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาให้คุณได้เรียนรู้และนำมาสร้างจุดแข็ง อย่างทุกวันนี้ก็มีเรื่องการตลาดออนไลน์ การใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย การคิดเชิงออกแบบ การบริหารทางการเงิน หรือแม้แต่แนวคิดเรื่องเมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในอุตสาหกรรมแฟชั่นตอนนี้
(2) อย่ากลัวความล้มเหลว: ดิฉันบอกตัวเองเสมอว่า “อะไรที่มันฆ่าคุณไม่ได้ ย่อมทำให้คุณแข็งแรงขึ้น” (what does not kill you makes you stronger) และดิฉันก็ผ่านมาได้จริง ๆ ยิ่งคุณได้ผ่านความยากลำบากมามากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเชิงธุรกิจหรือชีวิตส่วนตัว คุณจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ความล้มเหลวเป็นเหมือนครูที่ดีที่สุดที่คุณจะมีได้ ขอแค่คุณวางแนวทางฟื้นตัวไว้สำหรับตัวเอง รู้ว่าเป้าหมายคืออะไร และค่อย ๆเก็บมันขึ้นมาทีละอย่าง เราต้องสู้ต่อไป
(3) อย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว และมีความสุขกับทุกก้าวเล็กๆ: ในทุก ๆ วันที่ธุรกิจของคุณเติบโต จงอย่าปล่อยให้อีโก้ของคุณโตตามไปด้วย จงรู้จักถ่อมตน และมีความสุขกับทุกก้าวเล็ก ๆ ที่คุณเดินมา ใช้ความสำเร็จของคุณเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น ไม่ใช่เป็นแรงกดดัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเติบโตต่อไปได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์