แบรนด์ไทยมองกระแสบวก เตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลช้อปปิ้ง 11.11
อาลีบาบา กรุ๊ป เปิดตัวมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลกประจำปี 11.11 ครั้งที่ 14 (“11.11”) ซึ่งถือเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตที่ใหญ่ที่สุดแห่งปีสำหรับผู้ค้าปลีก ที่ดำเนินงานในระบบเศรษฐกิจจีนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
สำหรับแบรนด์ต่างๆ มากมายที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคชาวจีน 11.11 ถือเป็นไฮไลท์แห่งปี ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นประตูชัยสู่ยอดขายที่สูงกว่าปกติ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ ขยายส่วนแบ่งการตลาด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาว
เรามาดูแบรนด์ไทยที่มีชื่อเสียง 2 แบรนด์ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมน้ำหนัก ฟิตเน่ (FITNÈ) และแบรนด์สปาสุดหรู หาญ (HARNN) เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับ 11.11 และตลาดจีน
แบรนด์ FITNÈ และ HARNN เปิดหน้าร้านบน Tmall Global ในเดือนสิงหาคม 2019 และกรกฎาคม 2020 ตามลำดับ พร้อมเคยเข้าร่วมเทศกาล 11.11 มาแล้วก่อนหน้านี้ โดย 11.11 ปีนี้ ทั้งสองแบรนด์ต่างเล็งเห็นกระแสบวกที่กำลังเกิดขึ้น และได้เตรียมความพร้อมสำหรับมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์กว่า 17 ล้านรายการจาก 290,000 แบรนด์เข้าร่วม
ตัวแทนจากแบรนด์ คุณวีกิจ บำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวคอนเซพท์ โปรดัคท์ จำกัด จาก FITNÈ และ คุณธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด จาก HARNN ได้แชร์ที่มาที่ไปถึงสาเหตุที่ทั้งสองแบรนด์ตัดสินใจเข้ามาเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์ม Tmall Global
FITNÈ: วิสัยทัศน์ของ FITNÈ คือ การแนะนำวิธีรักษาสุขภาพให้ฟิตแบบไทยๆ ของคนไทย สู่ผู้บริโภคต่างประเทศและในประเทศจีน ด้วยฐานข้อมูลที่กว้างขวางและแข็งแกร่งในแง่กลุ่มประชากรอายุต่าง ๆ ของประเทศจีน Tmall Global จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเราในการเปิดหน้าต่างเชื่อมต่อและขยายฐานลูกค้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราเชื่อว่าการมีหน้าร้านอยู่ใน Tmall Global สามารถสนับสนุนเป้าหมายของเราในการขยายการเข้าถึงและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเราทั่วประเทศจีน
HARNN: สำหรับเรา Tmall Global เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ในประเทศจีน ที่มีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยให้เราสามารถส่งมอบบริการแก่ลูกค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เนื้อหาบนแพตฟอร์ม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภคในประเทศจีน ด้วยศักยภาพของฟังก์ชั่นไลฟ์สตรีมและคุณสมบัติของเนื้อหาอื่นๆ เราจึงสามารถจัดเซสชั่นไลฟ์สตรีมผ่านร้านค้าออนไลน์ของเราบน Tmall Global ได้ และยังสามารถเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับความงามและสุขภาพ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ๆที่มีศักยภาพได้อีกด้วย
อะไรที่ทำให้แบรนด์ของคุณยังอยู่บนแพลตฟอร์ม Tmall Global?
FITNÈ: สำหรับผม มันเป็นทั้งการสนับสนุนจากทีม Tmall Global และโอกาสที่เรามองเห็นจากแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเห็นความพยายามที่เพิ่มขึ้นของ Tmall Global ในการปรับปรุงการเข้าถึงและสร้างความเหนียวแน่นของผู้บริโภคผ่านวิธีการต่าง ๆ ตั้งแต่การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการปรับปรุงด้านโลจิสติกส์ ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นผลประโยชน์ที่จับต้องได้สำหรับแบรนด์บนแพลตฟอร์มเช่นเรา การเป็นหนึ่งในแบรนด์แรกในหมวดอาหารเพื่อสุขภาพบน Tmall Global ถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับเรา เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานะที่แข็งแกร่งของเราบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของจีน
HARNN: เราพบว่าการใช้งาน Tmall Global ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมแก่แบรนด์ โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ตั้งแต่การสร้างร้านค้าออนไลน์ที่ปรับแต่งเองได้ ไปจนถึงการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคเพื่อดูว่ามีโอกาสใหม่ ๆ อยู่ที่ใด การใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อสร้างความต้องการ ตลอดจนธุรกรรมการสั่งซื้อและการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ เพื่อให้แบรนด์ต่างประเทศอย่าง HARNN สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในตลาดต่างประเทศ มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เรามุ่งหน้าดำเนินการอยู่บน Tmall Global และเสริมสร้างสถานะของเราบนแพลตฟอร์ม
แบรนด์ของคุณเคยเข้าร่วมมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 แล้วในปีก่อน ๆ เหตุผลอะไรที่ทำให้คุณเข้าร่วม 11.11 ในปีนี้ ?
FITNÈ: 11.11 เป็นหนึ่งในมหกรรมจำหน่ายสินค้าอันทรงเกียรติที่สุดงานหนึ่ง ไม่เพียงแต่ในจีนแต่เกือบทั่วโลก การเป็นส่วนหนึ่งของงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของประเทศไทย ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจ อีกทั้ง ยังเป็นอีกหนึ่งงานที่สามารถทำยอดขายสูงสุดแห่งปีให้เราได้เช่นกัน ในปีนี้ ทาง FITNÈ ตั้งตารอที่จะได้รับการเข้าชมและความสนใจจากลูกค้าทั้งปัจจุบันและใหม่ผ่านมหกรรมนี้มากขึ้น
HARNN: 11.11 เป็นงานที่สำคัญมากแห่งปี และเป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาด เราสามารถสร้างยอดขายได้มหาศาลจากเมื่อปีก่อน ๆ และเราหวังว่าเราจะสามารถทำได้ดียิ่งขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม มูลค่าของ 11.11 นั้นมีมากกว่าแค่เรื่องยอดขาย แต่เรายังมองว่ามันเป็นแพลตฟอร์มหลักที่เราสามารถแสดงภาพลักษณ์และตราสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเราต่อผู้บริโภคชาวจีนหลายล้านคน
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน คุณคิดอย่างไรกับตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในประเทศจีน?
FITNÈ: อันที่จริง เราเห็นความท้าทายที่เกิดจากการระบาดใหญ่ เช่นเดียวกับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เนื่องจากการเข้ามาของแบรนด์จีนในประเทศและผู้เล่นจากต่างประเทศอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพในประเทศจีน ในขณะเดียวกัน ความต้องการในตัวเลือกอาหารเพื่อสุขภาพจากผู้บริโภคชาวจีนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังผลกระทบจากการระบาดใหญ่ที่กระตุ้นจิตสำนึกด้านสุขภาพของผู้คน ผลิตภัณฑ์ของเรามุ่งเน้นไปที่การนำเสนอทางเลือกสุขภาพที่สะดวกสบายและสนุกสนาน และโซลูชั่น Day and Night FIT ให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในปัจจุบัน เราเชื่อว่าแบรนด์ของเรายังมีศักยภาพที่จะเติบโตในประเทศจีนได้อีกมาก
HARNN: ความไม่แน่นอนของตลาดเป็นสิ่งที่เราตระหนักดีอยู่แล้ว แต่เรายังคงมองเห็นกระแสบวกในตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของจีน เหตุผลง่าย ๆ คือ ผู้บริโภคชาวจีนนิยมชอปปิ้งออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งเปิดโอกาสให้ HARNN เติบโตได้ เนื่องจากผู้บริโภคในจีนทุกกลุ่มอายุต่างให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของตนมากขึ้น
ท้ายสุด แบรนด์ของคุณมีวิธีเตรียมพร้อมสำหรับ 11.11 ในปีนี้อย่างไร?
FITNÈ: เป้าหมายหลักของเราสำหรับ 11.11 ปีนี้อยู่ที่การไลฟ์สตรีม ตั้งแต่เข้าร่วม Tmall Global เราได้นำแนวทางที่สร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคมาผนวกใช้ โดยผู้บริโภคสามารถโต้ตอบกับผู้ค้าในระหว่างการไลฟ์สตรีมบนร้านค้าออนไลน์ของเราได้ และเราก็ยังเตรียมทำงานร่วมกับไลฟ์สตรีมเมอร์มืออาชีพ เพื่อส่งเสริมด้านการสร้างแบรนด์และให้ความรู้แก่ผู้บริโภค โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นแนวทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเราสำหรับแคมเปญชั้นนำอย่าง 11.11
HARNN: กลยุทธ์ของเราในช่วง 11.11 ปีนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง ได้แก่ ช่วงก่อนเริ่มมหกรรม คือ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เราได้เริ่มโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ และเริ่มต้นสร้างเนื้อหาทั้งในและนอกแพลตฟอร์มของอาลีบาบา เพื่อสร้างและรักษาการเป็นที่รู้จักของแบรนด์ ต่อลูกค้าเก่าและใหม่ ช่วงที่สอง คือ ระหว่างแคมเปญ 11.11 ซึ่งกำลังเกิดขึ้นจริงขณะนี้ เรามุ่งเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้บริโภคศักยภาพสูง ควบคู่ไปกับข้อเสนอส่งเสริมการขาย 11.11 ที่หลากหลายและความร่วมมือในการไลฟ์สตรีมกับ KOL ที่คาดว่าจะสามารถขับเคลื่อนการขายได้มาก นอกจากนี้ ในปีนี้ เรายังได้สร้างวิดีโอสั้นเพิ่มเติม เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ซื้อ ในแง่ของสต็อก เราเริ่มเตรียมสต็อกของเราตั้งแต่เดือนกันยายน เพื่อให้แน่ใจว่ามีสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่เพียงพอตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ช่วงสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เราได้ใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ของ Cainiao เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคพึงพอใจในขั้นตอนสุดท้ายในเส้นทางการช้อปปิ้งของพวกเขา นั่นก็คือการจัดส่งสินค้านั่นเอง
แชร์
ก๊อปปี้ลิ้งค์