อาลีบาบาชูเทคโนโลยี เบื้องหลังความสำเร็จช่วงมหกรรม 11.11

ขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของอาลีบาบา ทำให้งานมหกรรม 11.11 ที่ผ่านมา ที่มีผู้ใช้นับร้อยล้านคน สามารถสั่งซื้อของบนแพลตฟอร์มพร้อมกันโดยไม่มีสะดุด และสร้างปรากฏการณ์ยอดขายอย่างถล่มทลาย นอกจากระบบที่มีความเสถียร และระบบขนส่งที่มีคุณภาพแล้ว อาลีบาบายังได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์มากมาย เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์การการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค

ปัญญาประดิษฐ์ สำหรับผู้ซื้อ

สมาร์ททัช พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยชิงหวาร่วมกับ Alibaba Joint Research Lab for Natural Interaction Experience ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อช่วยผู้บกพร่องทางสายตา และได้นำออกให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ตั้งแต่มหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 เป็นต้นไป เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพและติดแผ่นพิเศษลงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งแอพจะเข้าใจยูสเซอร์อินเตอร์เฟสต่าง ๆ บนจอมือถือผ่านเทคโนโลยี AI และ HMI (human-machine-interaction) อันชาญฉลาด เพื่อสร้างเสียงและระบบสั่นให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสั่งการและสื่อสารกับสมาร์ทโฟนได้ สมาร์ททัชจะช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่อยู่บนแพลตฟอร์มค้าปลีกของอาลีบาบาผ่านระบบสั่นบนแผ่นพิเศษนั้น จึงทำให้สามารถใช้งานและสื่อสารกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่ใช้หูแตะลงบนแผ่นที่ติดอยู่หน้าจอเพื่อรับฟังข้อมูลที่ปรากฎอยู่ที่หน้าจอเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้โทรศัพท์ในที่สาธารณะ เทคโนโลยีนี้นับเป็นการสร้างนิยามใหม่ของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างโทรศัพท์มือถือกับผู้บกพร่องทางการมองเห็น และคาดว่าจะนำออกใช้อย่างเป็นทางการประมาณต้นปีหน้า

Machine Translation:

เพื่อให้มั่นใจว่านักช้อปทั่วโลกจะได้ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีในมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก DAMO Academy ซึ่งเป็นโครงสร้างวิจัยระดับโลกของอาลีบาบา ได้พัฒนาเครื่องแปลปัญญาประดิษฐ์ (AI translation tool)  เพื่อลดข้อจำกัดด้านภาษาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เครื่องมือที่ใช้ในแชตรูมออนไลน์ได้เริ่มใช้แล้วบนแพลตฟอร์มลาซาด้า เพื่อให้การแปลจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาไทย ภาษาเวียดนาม ภาษาบาฮาซาร์อินโดนีเซีย และจากภาษาเหล่านั้นเป็นภาษาอังกฤษ เครื่องมือนี้จะสนับสนุนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างเช่น อาลีเอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับโลกของอาลีบาบา ซึ่งจะเชื่อมคนขายคนซื้อกับคนขายเพื่อแปลภาษาที่หลากหลาย เช่น อังกฤษ จีน รัสเซีย สเปน ฝรั่งเศส อารบิก และตุรกี เครื่องมือเอไอนี้จะช่วยยกระดับ Self-Attention model ของ Neural Machine Translation (NMT) ซึ่งเป็นระบบเครือข่ายเพื่อสอนดาต้าด้านภาษาศาสตร์ขนาดใหญ่และเป็นครั้งแรกที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับอีคอมเมิร์ซ  ในอนาคต เครื่องแปลภาษาด้วยเอไอนี้จะเป็นสิ่งช่วยสนับสนุนการแปลภาษาแบบฉับพลันเพื่อช่วยสร้างความสะดวกให้กับการค้าในระดับโลก

นอกจากจะมีระบบ AI ให้กับผู้บริโภคแล้ว ทางอาลีบาบายังได้พัฒนาระบบ AI ให้กับผู้ค้าด้วย

AI video editing:

อาลีบาบา วู้ด (Alibaba Wood) เป็นเครื่องมือในการตัดต่อวิดีโอแบบ AI สำหรับแบรนด์ที่ต้องการผลิตวิดีโอสั้นสำหรับโปรโมตผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้นำมาใช้ในช่วงมหกรรมช้อปปิ้ง เครื่องมือตัดต่อวิดีโอนี้นำข้อความหลัก ภาพและวิดีโอมาตัดต่อสร้างเป็นวิดีโอความยาว 20 วินาทีได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 นาที อาลีบาบา วู้ด เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Alibaba Natural Human Computer Interaction Lab อาลีบาบา คลาวนด์ และ IDEA Lab ของมหาวิทยลัยเจ้อเจียง เครื่องมือตัดต่อนี้ จะนำข้อมูล ภาพ ดึงคีย์เวิร์ด คอมพิวเตอร์วิทัศน์ (visual computing) และการวิเคราะห์ดาต้า มาประกอบขึ้นเป็นวิดีโอสั้น พร้อมเลือกใช้เพลงที่สอดคล้องกันเลือกสรรโดยใช้อัลกอริทึ่ม เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักช้อป เครื่องมือนี้มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ค้ารายเล็กให้สามารถลดต้นทุนทางการตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมการณ์เพื่อเข้าร่วมมหกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

AI stocking:

หุ่นยนต์ AI จะช่วยในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ วางแผนยอดขาย การตั้งราคา การผลิตสินค้าแบบ C2B ที่ใช้ความต้องการของลูกค้ามาเป็นตัวตั้งในการผลิตสินค้า และบริหารสินค้าคงคลังระหว่างมหกรรมช้อปปิ้งที่ผ่านมา

• การคัดสรรผลิตภัณฑ์ตามข้อกำหนดที่หลากหลาย   AIจะใช้อัลกอริทึ่มในการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่จะขายโดยขึ้นอยู่กับประเภท ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ เช่น การใช้งาน เป้าของยอดขาย เป็นต้น
• เป็นเครื่องประมาณการณ์ยอดขาย โดยใช้machine learning ที่สามารถทำนายยอดขายได้ล่วงหน้าเป็นสัปดาห์หรือแม้แต่เป็นเดือน ซึ่งจะช่วยในการวางแผนอื่น ๆ ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้า และเพิ่มความสามารถในการบริหารสินค้าคงคลัง
• ปรับราคาขายในเวลาเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ จากการใช้reinforced and machine learning ทำให้ช่วยสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนกับกำไรขั้นต้นรวมถึงการหมุนเวียนของสินค้า บางครั้งเครื่องอาจจะคำนวณแล้วพบว่าการลดราคาสินค้าเพื่อผลักดันให้สินค้าที่ขายช้าสามารถระบายออกได้เร็วขึ้น จึงสร้างกำไรมากขึ้น
• ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีในการทำนายยอดขายล่วงหน้าหลายสัปดาห์โดยใช้ข้อมูลการขายและข้อมูลบิ๊กดาต้าของอุตสาหกรรม ทำให้สามารถช่วยผู้ขายในการวางแผนทรัพยากรองค์กร หรือ ERP (Enterprise Resource Planning)เพื่อให้ข้อมูลต่อฝ่ายการผลิต การจัดเตรียมวัตถุดิบ และการเติมสินค้า
• การบริหารสินค้าคงคลังอย่างชาญฉลาด ซึ่งอาลีบาบาจะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการกระจายสินค้าไปยังคลังสินค้าในซัพพลายเชน เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์อัตราหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือต้นทุนด้านขนส่งโลจิสติกส์ และยอดการขาย

Alime Shop Assistant:

ร้านค้ากว่า 800,000 รายบนทีมอลล์เริ่มใช้ Alime Shop Assistant ซึ่งเป็นแชตบอตบริการลูกค้าขับเคลื่อนโดย AI เพื่อตอบคำถามลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงตลอดเทศกาลช้อปปิ้ง ซึ่งแชตบอตนี้สามารถให้ข้อมูลแบบชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้า โดยอาศัยความต้องการของลูกค้าและประวัติการช้อปปิ้งของลูกค้าคนนั้น รวมไปถึงการแจ้งอัพเดทการจัดส่งสินค้า และแจ้งเตือนเมื่อสินค้าส่งถึงปลายทาง

การให้การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

DC Brain: เป็นแพลตฟอร์มปฏิบัติการแบบอัจฉริยะ ที่มุ่งเน้นการสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับ อินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์ (IDC) ในพื้นที่ รวมไปถึงการใช้พลังงาน อุณหภูมิ ซึ่ง DC Brain ที่ขับเคลื่อนโดย machine learning สามารถทำนายการใช้ไฟฟ้าและ PUE ซึ่งเป็นมาตรฐานการชี้วัดความคุ้มค่าของการใช้พลังงานไฟฟ้าในดาต้าเซ็นเตอร์ ในเวลาเรียลไทม์ เพื่อช่วยบริหารให้ลดการใช้พลังงาน ซึ่งในปีนี้ มี IDC ทั่วโลกกว่า 200 แห่งที่ให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีระหว่างเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 ของอาลีบาบาในปีนี้

Hyper-scale green datacenter: อาลีบาบามี hyperscale datacenter ที่ จางเป่ย ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือของจีน เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเพื่อรองรับมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก  ด้วยการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์แบบ co-location และใช้เทคโนโลยีการใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและลม ทำให้จางเป่ยดาต้าเซ็นเตอร์เป็นหนึ่งในดาต้าเซ็นเตอร์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ด้วยการระบายความร้อนด้วยแรงลม คาดว่าการใช้พลังงานจะลดลงถึง 59% และการใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวในกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ค่าประสิทธิผลในการใช้หลังงาน หรือ  PUE (Power Usage Effectiveness) สามารถลดลงไปอยู่ที่ 1.0

เทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์

ระบบโกลบอลแทร็คกิ้ง เป็นระบบที่พัฒนาและทำงานร่วมกันระหว่างทีมอลล์ โกลบอล อาลีบาบา ควานด์ และไช่เหนียว ที่ยกระดับการทำงานของเทคโนโลยี IoT และบล็อกเชนเพื่อให้มีความสามารถในการระบุสินค้าที่ซื้อโดยผู้บริโภคผ่าน dual authentication และ two-way encryption ในขณะที่ตรวจเช็คสถานะการเดินทางของสินค้าในเวลาเรียลไทม์ผ่าน LBS และ GPS ระบบนี้นับเป็นโครงการล่าสุดที่อาลีบาบาอีโคซิสเท็ม ริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจในกลุ่มผู้บริโภคและการค้าข้ามพรหมแดนผ่านซัพพลายเชนจากผู้ขายส่งตรงถึงผู้ซื้อที่โปร่งใส

ระหว่างมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ผู้บริโภคชาวจีนสามารถใช้แอพเถาเป่าในการเช็คว่าสถานะสินค้าที่สั่งมาจากต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ทีมอลล์ โกลบอล

สมาร์ทโลจิสติกส์

สมาร์ทแวร์เฮ้าส์แห่งใหม่ของไช่เหนียว นับเป็นโรโบติกสมาร์ทแวร์เฮ้าส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน คลังสินค้าแห่งนี้บริหารงานด้วยระบบควบคุมพาหนะนำทางอัตโนมัติ  (AGVs: automated guided vehicles) ที่มีกว่า 700 คัน เทคโนโลยี IoT ในคลังสินค้านี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ สั่งให้ AGV ขับเคลื่อน จัดเก็บและถ่ายสินค้า พร้อมวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการขับเคลื่อนของยานพาหนะ AGV หลบสิ่งกีดขวางและเลี่ยงการชน รวมถึงการกระจายสินค้าอย่างชาญฉลาด การทำงานด้วยระบบอัตโนมัตินี้ ส่งผลให้สามารถทำงานได้มากขึ้นกว่า 50% ในระยะเวลาเท่ากัน เมื่อเทียบกับการทำงานแบบเดิม

นอกจากนี้ ไช่เหนียว ยังมี “Sky Eye Program” ที่เป็นระบบวิดีโอมอนิเตอร์ผ่านคลาวด์ ที่นำมาใช้กับการทำงานกับพันธมิตร

Sky Eye จะเข้าถึงกล้องในสถานีโลจิสติกส์ทั่วประเทศจีน แล้วใช้ผสานกับ Computer Vision Technology หรือคอมพิวเตอร์วิทัศน์ และอัลกอริทึ่มของไช่เหนียว เพื่อยกระดับกล้องในสถานีโลจิสติกส์เหล่านั้นให้เป็นสมาร์ท IoT เพื่อช่วยให้บริษัทขนส่งเห็นทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้งานและความผิดปกติในระบบโลจิสติกส์ สามารถส่งข้อมูลอัพเดทไปยังผู้ให้บริการที่เป็นมนุษย์ เพื่อบริหารจัดการข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในระบบแบบเรียลไทม์  Deppon ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ของบริษัทฯ แจ้งว่า Sky Eye สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้ดีขึ้น 15% ในช่วงการทดลองใช้